Skip to main content

กฏหมายคนพิการดีอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาบังคับใช้ไม่ได้ นี่คือความคิดของพรรคเปลี่ยนอนาคต ที่ต้องการเข้ามาทำให้สิทธิคนพิการเกิดขึ้นจริงจากนโยบายและกฏหมายที่มีอยู่เดิม 

ชวนคุยกับอรินทรา เจริญทอง ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ลำดับที่ 20 พรรคเปลี่ยนอนาคต จากคนพิการที่เคยถูกโกง เธอต้องการเข้ามาเปลี่ยนอนาคตของตัวเองผ่านนโยบายที่คิดโดยคนพิการ นำเสนอโดยคนพิการและจะปฏิบัติโดยคนพิการเพื่อให้คุณภาพชีวิตของเพื่อนคนพิการดีขึ้น 

นโยบายของพรรคเปลี่ยนอนาคตเป็นอย่างไร 

อรินทรา : นโยบายของเราคือ 6 ทุน 5 เปลี่ยน  6 ทุน ประกอบด้วย ทุนวิสาหกิจชุมชนคนพิการถ้ารวมคนพิการได้ตั้งแต่สิบคนขึ้นไปจะได้ทุน 1 ล้านบาทเพื่อทําวิสาหกิจชุมชน ที่ผ่านมามีการฝึกอาชีพคนพิการกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นศิลปหัตถกรรมหรือทำเบเกอรี่ แต่เมื่อฝึกจบคนพิการกลับไม่มีทุนที่จะเริ่มต้นธุรกิจ เขาอยากขายแต่ไม่มีทุน แม้จะมีฝีมือก็เปิดไม่ได้ ทุนแรกนี้จึงจะช่วยอุดช่องว่างและเป็นกลไกเดิมที่จริงๆ มีอยู่แล้ว แต่คนพิการไม่ค่อยรู้ 

ทุนที่สอง ทุนอาชีพอิสระที่ให้รายบุคคล 120,000 บาท เมื่อขอแล้วก็ต้องทำการใช้คืนกองทุน คนพิการสามารถกู้กองทุนนี้มาประกอบอาชีพอิสระของตัวเอง

ทุนที่สาม ทุนครอบครัวคนพิการที่ใช้สิทธิมาตรา 35 ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมฯ  ทุนนี้ไม่ต้องคืน

ทุนที่สี่ ทุนปรับบ้านเปลี่ยนอนาคต จำนวน 40,000 บาท คนพิการนั่งวีลแชร์ต้องใช้ทางลาด ปรับพื้น ทางต่างระดับหรือจะปรับห้องน้ำที่บ้านเพื่อให้สอดคล้องกับความจําเป็นของคนพิการ เดิมทีมีทุนนี้อยู่แต่ระยะเวลาในการพิจารณานั้นค่อนข้างนาน อาจมากถึง 2 ปีและไม่ทันต่อการใช้งาน ถ้าเราได้เข้าไปทำงานจะทำให้สามารถอนุมัติได้ในหนึ่งเดือน หรือหากถูกวินิจฉัยว่าพิการตั้งแต่โรงพยาบาลก็สามารถใช้ทุนปรับบ้านได้เลย 

ทุนที่ห้า ทุนคนพิการยากจน 10,000 บาทต่อปี ซึ่งใช้เวลาอนุมัติสั้น ต้องลงพื้นที่จริงเพื่อดูสภาพบ้านคนพิการ เรามองว่า การเห็นสถานที่จริงไม่ได้เป็นเรื่องยาก คนพิการไม่ได้มีจำนวนมากเกินการทำงานว่าบ้าน ครอบครัว สภาพการเงินของคนพิการเป็นอย่างไร 

ทุนที่หก ทุนคนพิการเสียชีวิต ค่าปลงศพ ค่าทํางานศพสามารถเบิกได้ มาช่วยเยียวยาให้กับคนพิการและครอบครัวของคนพิการ 10,000 บาท 

ส่วน 5 เปลี่ยน ประกอบด้วย สองเปลี่ยนแรกเป็นเรื่องบัตร-ใบ เปลี่ยนแรกหรือบัตรคนพิการถ้วนหน้า ปัจจุบันมีคนพิการแค่ 2.1 ล้านคนที่มีบัตรคนพิการ อีก 2.4 ล้านคนยังไม่ได้บัตรคนพิการ  ไม่ว่าจะจากการประเมินความพิการที่ไม่ได้มาตรฐานหรือการเข้าไม่ถึงกระบวนการ นำมาสู่เปลี่ยนที่สอง ใบรับรองแพทย์คนพิการตลอดชีพ ตัวเราเองทุกครั้งที่ไปทําบัตรคนพิการใหม่ หรือทำใบขับขี่ คนพิการต้องขอไปรับรองแพทย์ทุกครั้งที่โรงพยาบาล ทั้งเสียเวลาและยุ่งยากเพราะคนพิการเองก็เดินทางไม่สะดวก ทั้งที่แขนขาไม่มีทางงอกออกมาใหม่ ไม่สามารถหายจากความพิการได้ 

เปลี่ยนที่สาม เปลี่ยนการจ้างงานคนพิการ จากร้อยละ 1 ซึ่งถือได้ว่าน้อยไป เป็นร้อยละ 2-5 เพื่อลดปัญหาคนพิการว่างงาน เมื่อคนพิการว่างงานเขาก็กลายเป็นภาระของครอบครัว นโยบายนี้จะช่วยลดภาระสังคม 

เปลี่ยนที่สี่ เปลี่ยนอาสาเป็นผู้ช่วยเปลี่ยนอนาคต ให้มี อสม.เป็นผู้ช่วยคนพิการ ปัจจุบันผู้ช่วยมีประมาณ 20,000 คน แต่เราอยากเปลี่ยนให้เป็น 100,000 คน เพื่อกระจายให้ทั่วถึงคนพิการ

เปลี่ยนที่ห้า กองทุนเปลี่ยนอนาคตครอบครัวคนพิการ โดยใช้วิธีการขอรับเบี้ยเดือนละ 800 บาทกลับมาจากคนพิการที่ไม่ต้องการ เพื่อนำเงินเข้าโครงการกองทุนเปลี่ยนอนาคตครอบครัวคนพิการ เพื่อดูแลคนพิการยากจน คนพิการเสียชีวิต

คิดอย่างไรกับรัฐสวัสดิการและเบี้ยคนพิการ 3,000 บาท 

หลายพรรคชูนโยบายเรื่องเบี้ยคนพิการหลายพันบาท เรามองว่าเขาสามารถพูดได้หมดในโลกของจินตนาการ แต่พรรคเปลี่ยนอนาคตเราเอานโยบายเดิมที่มีอยู่แล้วมาพูด มาทำให้ได้ ทุกวันนี้การให้เบี้ยคนพิการ 800 บาทต่อเดือนก็เป็นตัวเลขกลมๆ 20,000 ล้านบาทแล้ว ถ้าปรับเบี้ยเป็น 3,000 บาทตัวเลขรวมก็จะสูงถึง 70,000 ล้านบาท จะเอาเงินที่ไหน เราจึงมองว่าเป็นนโยบายขายฝัน ทําได้จริงหรือเปล่าไม่รู้ แต่พรรคเราไม่หยิบมาเป็นนโยบายเพราะถ้าวันหนึ่งเราได้เข้าไป แล้วเบี้ยสามารถปรับได้เราคงต้องปรับอยู่แล้วเป็นเรื่องพื้นฐาน เราเองก็พิการก็อยากจะได้เหมือนกัน ในช่วงแรกนี้ขอทำให้คนพิการที่ยังไม่มีบัตรได้เข้าถึงการทำบัตรให้ครบก่อน 

ให้คะแนน และวิจารณ์การทำงานเรื่องคนพิการของรัฐบาลที่ผ่านมา

ส่วนตัวที่ผ่านมาเราเจอปัญหาต่างๆ ทั้งโดนโกงแต่ก็ไปร้องเรียนที่หน่วยงานและกระทรวงต่างๆ ที่บอกว่าพิทักษ์สิทธิคนพิการและจะช่วยเราได้ แต่ก็ไม่มีใครช่วยได้ ไม่มีใครตอบอะไรกลับมาทั้งที่เป็นปีแล้ว กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการก็ไปยื่นมา ก็ไม่มีความคืบหน้า เขามีหน้าที่เช็คข้อมูลให้อย่างเดียวทั้งที่เรามีหลักฐานพร้อมหมดแล้ว  เราจึงมองว่าการทำงานของภาครัฐยังไม่มีประสิทธิภาพ เอาแต่ถ่ายรูป ถ่ายรูป ถ่ายรูป เดี๋ยวส่งเรื่อง พอส่งไปก็เงียบหาย ฉะนั้นถ้าคะแนนเต็ม 100 เราให้ 10  สำหรับคนดีๆ ที่ยังทำงานในหน่วยงานต่างๆ 

คิดอย่างไรหากอธิบดีกรมคนพิการควรเป็นคนพิการ

มองว่าพิการหรือไม่พิการก็ได้ แต่คนๆ นั้นจะต้องเข้าใจปัญหาคนพิการ ทำงานจริง ต้องการที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของคนพิการดีขึ้น

ทำไมคนพิการต้องเลือกพรรคเปลี่ยนอนาคต 

พรรคเราทำนโยบายที่มีอยู่จริงให้เกิดเป็นรูปธรรม ทําได้จริง ใช้ได้จริง เราจัดตั้งพรรคเพื่อช่วยคนพิการโดยตรง นอกจากนี้เรามีเครือข่ายจิตอาสาช่วยเหลือคนพิการมาก่อน รู้อยู่แล้วว่าคนพิการต้องการอะไร โดนโกงอย่างไรบ้าง ไม่ได้จัดตั้งพรรคเพื่อแสวงหาผลประโยชน์อื่นใด