Skip to main content

จากกรณีที่วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ โพสเฟซบุ๊กเล่าถึงร้านยิ้มสู้คาเฟ่ ร้านกาแฟที่บริการโดยคนหูหนวก สาขาธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์จะต้องปิดตัวลงในวันที่ 10 พ.ย.2563 เนื่องจากเจ้าของสถานที่มอบสัมปทานให้แก่ร้านกาแฟอื่น ดังใจความบางส่วนที่ว่า

“ผม ศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ในฐานะผู้ก่อตั้งร้านยิ้มสู้คาเฟ่ ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่สร้างอาชีพให้แก่คนพิการ บาริสต้าของร้านเป็นคนหูหนวก ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณผู้ที่เคยให้การอุดหนุนกาแฟของเรามาโดยตลอด แต่ ณ วันนี้ ผมต้องขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ร้านยิ้มสู้คาเฟ่ สาขาธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จำเป็นต้องปิดตัวลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 นี้ ซึ่งจะทำให้คนพิการหลายคนที่ปฏิบัติงานอยู่สาขานี้ต้องตกงาน ขาดรายได้ในการเลี้ยงชีพ สาเหตุเนื่องจาก ทางเจ้าของสถานที่ได้มอบสัมปทานให้แก่ร้านกาแฟอื่นไปเรียบร้อยแล้ว”

“ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ความพยายามในการหาช่องทางสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่คนพิการ กลับพ่ายแพ้ต่อระบบนายทุนใหญ่ ซึ่งจะส่งผลให้คนพิการจะต้องดำเนินชีวิตด้วยความยากลำบาก” 

หลังจากเรื่องนี้กระจายสู่วงกว้าง วิริยะได้โพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้งใจความว่า

“หลังจากที่ท่านได้ทราบข่าว ก็ได้มีการประสานมาเบื้องต้นว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีจุดยืนในการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคม และพร้อมให้การช่วยเหลือมูลนิธิสากลคนพิการและร้านยิ้มสู้คาเฟ่อย่างเต็มที่ ในการส่งเสริมการฝึกอาชีพคนพิการและผู้ด้อยโอกาส โดยจะจัดหาพื้นที่ใหม่ในทำเลที่ดีและเหมาะสมภายในท่าพระจันทร์เพื่อเป็นที่ตั้งใหม่ของร้านต่อไป "

“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าผมไม่อาจเก็บกดความผิดหวังเอาไว้ในใจได้ เพราะสิ่งที่ผมทำมาโดยตลอดคือ การสนับสนุนให้คนพิการได้ลุกขึ้นสู้ ได้ใช้พลังในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ไม่เป็นภาระให้แก่ใคร “

"อีกด้านหนึ่งคือการบอกเล่าให้สังคมเห็นความสำคัญกับการสร้างโอกาสให้กับคนพิการ และสิ่งหนึ่งที่เราทำมาตลอดคือ การเป็นองค์การสาธารณกุศลเล็กๆ ที่จะคอยช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ หรือช่วยแก้ไขปัญหาให้กับคนพิการ เพราะคนพิการไทยส่วนใหญ่ยากจน การจะเข้าถึงหน่วยงานใหญ่ๆ”

ด้านคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์ชี้แจง โดยมีสาระสำคัญว่า ร้านยิ้มสู้ได้หมดสัญญาลงตั้งแต่กลางปี 2563 โดยต่อมาทางคณะได้จัดสรรหาร้านกาแฟ และมีร้านเข้าคัดเลือก 2 ร้าน ได้แก่ Cafe Amazon และ ร้านยิ้มสู้ โดยมีคณะกรรมการประเมินแบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ ร้าน และรสชาติสินค้า ซึ่งร้าน Cafe Amazon เป็นผู้ชนะในทั้งสองส่วน และยังคงระเบียบเรื่องการจ้างงานคนพิการไว้ ดังที่ได้แจ้งผลอย่างไม่เป็นทางการให้กับร้านกาแฟยิ้มสู้ทราบแล้ว   

อย่างไรก็ดี หลังมีกระแสดังกล่าว ฝ่ายบริหารธุรกิจร้านค้าคาเฟ่อเมซอน บริษัทปตท.น้ำมันและการค้าปลีกจำกัด(มหาชน) ได้ชี้แจงโดยระบุว่า บริษัทได้ขอถอนตัวจากการดำเนินการร้านกาแฟดังกล่าว เนื่องจากกระแสข่าวมีผลกระทบต่อผู้ให้บริการรายเดิม

ด้านในโลกออนไลน์กระแสการวิพากษ์วิจารณ์ก็แตกกันหลายฝ่าย ด้านหนึ่งมองว่า มหาวิทยาลัยไม่ควรให้ร้านกลุ่มทุนใหญ๋เปิดและทำลายอาชีพของคนพิการ รวมทั้งควรสนับสนุนร้านและอาชีพของคนพิการให้มากขึ้น ส่วนอีกด้านก็มองว่า แม้จะเป็นธุรกิจของคนพิการก็ควรที่จะแข่งขันกับตลาดทั่วไป และไม่สมควรเอาเรื่องความพิการมาเป็นประเด็น

 

https://www.facebook.com/photo/?fbid=3951135981569070&set=a.976584295690935

https://www.facebook.com/photo/?fbid=3948760171806651&set=a.976584295690935