Skip to main content

สมาคมผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยคนตาบอดในประเทศไทย ออกแถลงการณ์ต่อกรณีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดดังนี้

เรื่อง ขอให้ช่วยเหลือเยียวยาคนพิการทางการเห็นที่ประกอบอาชีพนวด ได้รับความเดือดร้อนจากสถานะการณ์โรคระบาดโคโรน่า(โควิด-19)

เรียน ผู้มีอำนาจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตามที่ได้มีสถานการณ์เกิดโรคระบาดอย่างรุนแรงจากเชื้อโคโรน่าไวรัส (โควิด-19) ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ทำให้หน่วยงานภาครัฐต้องประกาศใช้มาตรการต่างๆ เพื่อป้องกัน และควบคุมสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรค โดยขอความร่วมมือจากประชาชน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” และได้มีการออกประกาศคำสั่งปิดสถานที่ต่างๆ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายทำให้ติดโรคระบาดในวงกว้าง เช่น สถานศึกษา สถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า รวมถึงสถานบริการนวดเพื่อสุขภาพในในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นมา และมีผลต่อเนื่องไปยังจังหวัดอื่นทั่วประเทศด้วย

จากมาตรการดังกล่าวนั้น ส่งผลให้ “ผู้พิการทางการเห็น” ที่ประกอบอาชีพนวด ทั้งผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการ และพนักงานนวดประจำร้านได้รับความเดือดร้อนโดยตรง เพราะโดยทั่วไปแล้ว ร้านนวดของคนพิการทางการเห็นจะเป็นร้านขนาดเล็ก มีการพักอาศัย กินอยู่กันที่ร้าน ส่วนพนักงานนวดมีรายได้จากการให้บริการนวดแล้วแบ่งเปอร์เซ็นต์จากค่าบริการ ระหว่างเจ้าของร้านและพนักงานนวด เมื่อมีมาตรการเป็นคำสั่งให้หยุดบริการของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค จึงส่งผลกระทบต่อรายได้ของพนักงานนวดและการลงทุนของเจ้าของร้านอย่างมาก ซึ่งคนพิการทางการเห็นมีช่องทางเลือกในการประกอบอาชีพน้อยและต้องการโอกาสและเวลาในการปรับตัวนานกว่าคนทั่วไป ทำให้สูญเสียรายได้ในการดำรงชีพเพื่อหาเลี้ยงตนเองและครอบครัว แต่ในขณะเดียวกันยังต้องมีภาระค่าใช้จ่ายจำเป็นต่อการลงทุนที่ต้องรับผิดชอบ เช่น ค่าเช่าร้าน ค่าเช่าบ้าน ค่าสาธารณูปโภค รวมถึงค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตประจำวัน ถึงแม้ในปัจจุบันภาครัฐมีมาตรการในการช่วยเหลือเยียวยา แต่การเข้าถึงของคนพิการต่อมาตรการดังกล่าวยังทำได้ยาก โดยจะเห็นได้จากการคัดกรองเบื้องต้นของการลงทะเบียนในโครงการเราไม่ทิ้งกัน ที่ไม่มีอาชีพนวดผ่านการคัดกรองเลยทั้งที่พนักงานนวดก็ต้องขึ้นทะเบียนเช่นกัน และจากที่กล่าวมาข้างต้นยังไม่ทราบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ จึงก่อให้เกิดความกังวล ความเครียด จนส่งผลต่อสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ และอาจก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ต่อไปในอนาคต

ดังนั้นสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยคนตาบอดในประเทศไทย ในฐานะที่เป็นองค์กรที่ส่งเสริม พัฒนา พร้อมทั้งดูแลทำหน้าที่เป็นผู้แทนในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้กับคนพิการทางการเห็นที่ประกอบอาชีพนวด จึงขอความกรุณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน โดยพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอดังนี้

1.ขอให้จ่ายเงินเยียวยาผู้พิการรายละ 1,000 บาท ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน  ไม่รวมเบี้ยยังชีพคนพิการที่ให้ทุกเดือนอยู่แล้ว

2. ขอให้จัดหาแหล่งกู้ยืมเงินฉุกเฉิน ให้คนพิการทางการเห็นที่เป็นเจ้าของร้านนวดกู้ได้ รายละไม่น้อยกว่า 50,000 บาท โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ไม่มีดอกเบี้ย ระยะเวลาปลอดการชำระหนี้ 1 ปี

3. ประเด็นเงินชดเชยการขาดรายได้ ตามโครงการเราไม่ทิ้งกัน 5,000 3 เดือน  ขอให้ทางกลุ่มเจ้าของร้านนวดและพนักงานนวดคนพิการสามารถส่งรายชื่อสำหรับคนที่ยังไม่ได้รับเงินชดเชยการขาดรายได้เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณารับเงินชดเชยโดยตรง

ทางสมาคมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความกรุณาจากผู้มีอำนาจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนในครั้งนี้อย่างเร่งด่วน ซึ่งสมาคมฯ และคนพิการทางการเห็นที่ประกอบอาชีพนวด จะรอฟังผล ณ สถานที่ตั้งของตนเองตามมาตรการของทางภาครัฐ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคต่อไป

 

นายนพดล  เขมะรัตนา

นายกสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยคนตาบอดในประเทศไทย