Skip to main content

เว็บไซต์เดอะมิเรอร์รายงานเกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งทำโครงการเกี่ยวกับการหาคู่เดทให้กับคนพิการทางการเรียนรู้ เธอไม่เพียงทำให้พวกเขาได้เจอกัน แต่ยังแมตช์ความต้องการ ความชื่นชอบ อายุ หรือแม้แต่ที่อยู่อาศัย เพื่อให้พวกเขาเป็นคู่เดทที่สมบูรณ์แบบที่สุด


ฮาเลย์ ออสเลอร์ (กลาง)

ฮาเลย์ ออสเลอร์ วัย 29 ปี นักจับคู่เดทสำหรับคนพิการทางการเรียนรู้ กล่าวว่า งานของเธอคือการทำให้คู่ชายหญิง เช่นลุคและอลิซนั้นเจอกับความรัก เธอรู้สึกว่าการทำงานนี้ ทำให้เธอเหมือนได้รับรางวัลอยู่ตลอดเวลาจากการเห็นหนุ่มสาวสมหวังในความรัก

จากการทำงานของเธอ ทำให้เธอได้ร่วมเข้าไปมีบทบาทในรายการ Undateables รายการหาคู่ที่มีลักษณะกึ่งเรียลลิตี้ โดยคนที่มาออกรายการส่วนใหญ่เป็นคนที่สังคมมักนึกไม่ถึงว่าพวกเขาสามารถมีความรักได้อย่างไรกัน เช่น คนพิการ

ตอนหนึ่งในรายการ แสดงภาพของออสเลอร์โทรหาลุค สมาชิกในโครงการหาคู่ เพื่อแนะนำให้เขาเดทกับอลิซ ลุคและอลิซแลกเปลี่ยนความสนใจกันหลายเรื่อง ทั้งสองมีภาวะออทิสซึม เธอเล่าว่า เมื่อถึงวันเดท ก็เห็นได้ชัดเจนว่า ลุคและอลิซไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากเธอมากนัก พวกเขาเข้ากันได้ดีเป็นปีเป็นขลุ่ย ทั้งๆ ทีก่อนวันเดท พวกเขาทั้งคู่วิตกกังวล แม้ลุคจะใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากมีแฟนก็ตาม ขั้นตอนที่เธอทำจะเริ่มต้นจากการแนะนำตัวพวกเขาทั้งสองในร้านอาหาร และหลบออกไปนั่งอยู่โต๊ะฝั่งตรงข้ามในร้านอาหาร แรกๆ พวกเขาเงียบ และกระอักกระอวนใจ แต่ไม่นานนัก ลุคก็เริ่มพูดขึ้น เขาอวดเธอว่าเขาสามารถพูดได้ถึง 15 ภาษา จนอลิซรู้สึกประทับใจ และพวกเขาก็เริ่มคุยกันถูกคอ


ลุคและอลิซ

กว่าครึ่งหนึ่งของคนที่เธอทำงานด้วยนั้นมาจาก FitzRoy’s Love4Life ศูนย์จับคู่เดทในฮัมป์เชีย สถานที่ที่หลายคนพบรัก และเป็นรักที่ยืนยาว ตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอเชื่อมาตลอดว่า คนทุกคนมีสิทธิสมควรที่จะได้พบกับความรัก เมื่อโตขึ้น เธอพบว่าเพื่อนสนิทคนหนึ่งมีภาวะดาวน์ซินโดรม และเธอก็ชอบช่วยหาแฟนให้เขาที่โรงเรียน แม้เขาจะมีความพิการ แต่ความพิการของเขาไม่เคยเป็นประเด็นเลย เพราะเธอมักเห็นตัวตนความเป็นตัวเขาก่อนเรื่องอื่นๆ เสมอ

ช่วยเหลือผู้อื่น

ออสเลอร์เริ่มต้นชีวิตอาสาสมัครหาคู่เมื่อ 8 ปีที่แล้ว สมาชิกที่เข้าร่วมมีความพิการตั้งแต่ออทิสซึม แอสเพอเกอร์ หรือการบาดเจ็บของสมอง พวกเขาเข้าร่วมเพราะต้องการที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ ซึ่งอาจจะหาได้ยากในโลกแห่งความจริง เธอกล่าวว่า เธอรักงานนี้ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำ

ในช่วงแรก หน้าที่ของเธอคือช่วยประสานงานให้กับสมาชิกที่ต้องออกรายการหรือไปงานต่างๆ เพราะงานสังคม เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การดำเนินโครงการทำต่อไปได้ การเตรียมตัวล่วงหน้าเช่นนี้ช่วยคลายความกังวลของคู่เดท เพราะการไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับฝ่ายตรงข้ามนั้นทำให้เกิดแรงกดดันและความเครียด

หลังจากที่เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องความพิการ และการพัฒนาความสัมพันธ์แล้ว เธอก็ได้จับคู่ เบน ซึ่งมีภาวะแอสเพอเกอร์เจอกับ ฮอลลี ซึ่งมีภาวะออทิสซึม ซึ่งเป็นคู่เดทคู่แรกที่เธอเป็นแม่สื่ออย่างเต็มตัว ก่อนเดท เธอบรีฟพวกเขาเกี่ยวกับคำถาม และเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงบ่าย เพราะทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับพวกเขา ทั้งสองกังวลมาก หรือแม้แต่เธอก็ตื่นเต้นเสียจนนึกว่ากำลังนั่งดูลูกๆ ของตัวเอง


เบนและฮอลลี

ออสเลอร์กล่าวว่า งานส่วนหนึ่งคือการทำให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกได้รับการสนับสนุนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือการทำให้พวกเขารู้สึกมั่นใจในตัวเอง ดังนั้นเธอจึงไม่เคยนั่งอยู่ใกล้ๆ หรือนั่งประจันหน้ากับพวกเขาขณะที่พวกเขาออกเดท แต่ก็มีหลายครั้งที่มักเดินผ่านๆ พร้อมกับส่งนิ้วโป้งให้ เป็นสัญลักษณ์ว่าพวกเขาทำได้ดี และเมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกว่าบทสนทนาของพวกเขานั้นแปลกเกินไป เธอมักจะเดินเข้าไปและถามว่าทุกอย่างโอเคหรือเปล่า

เธอเล่าว่า ในเคสของเบนและฮอลลี เธอไม่จำเป็นที่จะต้องก้าวเข้าไป เดทครั้งนั้นน่าประทับใจและเป็นจุดเริ่มต้นของการแต่งงานในปีถัดมา เธอถูกชวนไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว และดีใจจนแทบเหาะ

ขณะที่เธอโน้มน้าวใครหลายต่อหลายคนให้ไปเดท สิ่งสำคัญมากก็คือการคัดเลือก เบนและฮอลลีนั้นเหมาะสมกันเพราะพวกเขาอายุใกล้เคียงกัน มีความสนใจใกล้เคียงกัน และเข้าใจความพิการของกันและกัน ในบางเรื่องที่ยากลำบากสำหรับเบน ฮอลลีก็มักเห็นต่าง เช่น เรื่องที่พวกเขาช่วยเหลือกันในชีวิตประจำวัน อย่างการใช้เงินและทำอาหาร หรือเรื่องการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ฮอลลีเข้าใจมุกตลกขบขันต่างๆ ซึ่งเบนอาจจะไม่เข้าใจ เธอจึงสามารถช่วยอุดช่องว่างนั้น พวกเขาจึงเป็นส่วนผสมที่ลงตัว โดยไม่มีใครรู้สึกว่าเป็นผู้ช่วยเหลืออีกคนหนึ่งมากจนเกินไป พวกเขาจึงเป็นคู่ที่เหมาะสมกันที่สุด

นอกจากนี้ เธอมักระลึกไว้เสมอคือ ที่อยู่อาศัยก็เป็นส่วนสำคัญในการเดท เป็นส่วนหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ความสัมพันธ์นั้นราบรื่นเท่าที่จะเป็นไปได้ เธอพยายามอธิบายให้พวกเขาเข้าใจว่า คุณอาจจะพร้อมแต่งงานแล้ว แต่ความสัมพันธ์นั้นต้องอาศัยการเรียนรู้ และมักเว้นระยะสักพักหลังจากเดท ก่อนที่จะเริ่มแนะนำสิ่งต่างๆ เพื่อให้พวกเขาได้เข้าใจความรู้สึกของตัวเองเสียก่อน

สิทธิที่จะรัก

ปีที่แล้ว ช่อง 4 ติดต่อออสเลอร์เพราะอยากบันทึกทำงานของในรายการ Undateables ทีมงานและสมาชิกค่อนข้างตื่นเต้น จนถึงตอนนี้ ตอนที่ 6 ก็ออกอากาศไปแล้ว

“การได้เห็นพวกเขาในทีวีทำให้ฉันรู้สึกดีมาก เรื่องราวของ แซม ซึ่งมีภาวะแอสเพอเกอร์ นั้นอยู่ในตอนที่ 1 แต่การเดทของเขานั้นล้มเหลว เพราะเขาขอเธอเป็นแฟนขณะที่เจอกันครั้งที่ 2 และเธอปฏิเสธ แตกต่างกับคู่ของลุคและอลิซ คู่ที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาราบรื่น พวกเขาคุยกันสักพัก ก่อนที่จะแยกจากกันด้วยความเข้าใจ”ออสเลอร์กล่าว

แม้ดูราบรื่น แต่ก็ยังมีเรื่องน่าเศร้าที่ไม่ใช่ทุกคนที่รู้สึกยินดี ผู้คนในโซเชียลมีเดียยังคอมเม้นท์ว่า คนพิการไม่ควรออกเดท หรือแม้แต่คำถามว่าพวกเขามีความรู้เรื่องเพศเพียงพอแล้วหรือยัง

“ทั้งๆ ที่พวกเขามีสิทธิอย่างเต็มเปี่ยมที่จะมีความรัก ตรงกับชื่อรายการอย่าง undateable คือ การเดทไม่ได้ ที่สร้างการตั้งคำถามให้กับคนดูว่า พวกเขาคิดว่าคนที่ไม่สามารถเดทหรือมีความรักได้นั้นต้องเป็นอย่างไร”ออสเลอร์เสริม

เธอกล่าวว่า หลังจากโครงการนี้เริ่มขึ้น พวกเธอก็วางแผนว่า จะขยายมันออกไปในบริเวณอื่นๆ ของสหราชอาณาจักร และเริ่มหาสมาชิกจากกลุ่มเพศหลากหลายมากขึ้น ไม่นานมานี้ พ่อของสมาชิกที่ชื่อแมททิวโทรมาหาเธอและพูดว่า ตั้งแต่ลูกชายของเขาได้ออกเดทกับเกรซ ทัศนคติและบุคลิกภาพของเขาก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

แมททิวมีภาวะออทิสซึม และนั่นทำให้เขามีปัญหาในเรื่องการตัดสินใจใช้เงิน เขามักโดนเพื่อนที่คบหาข่มขู่เพื่อขอเงินเสมอๆ แต่การเข้าร่วมโครงการทำให้เขาได้พบเจอเพื่อนใหม่ๆ และพบกับคนที่เขารักอย่างเกรซ ทุกวันนี้พวกเขาอยู่ด้วยกันและมีความสุขมาก เกรซก็กล่าวว่าเธอไม่เคยอยู่กับใครแล้วมีความสุขเท่ากับแมททิวมาก่อน

 

Fact: 1 ใน 4 ของคนพิการทางการเรียนรู้กล่าวว่า พวกไม่มีเพื่อน ภาวะนี้เป็นอันตรายต่อพวกเขาและทำให้พวกเขารู้สึกไม่มีคุณค่าเมื่อต้องอยู่ในที่สาธารณะ ความสัมพันธ์เป็นสิ่งสำคัญกับคนพิการกลุ่มนี้ และยิ่งสำคัญมากขึ้นเมื่อพวกเขาเป็นผู้ใหญ่

 

แปลและเรียบเรียงจาก

http://www.mirror.co.uk/news/real-life-stories/kind-hearted-woman-set-up-11376477