Skip to main content

เว็บไซต์ HUFFPOST รายงานว่า ในพาราลิมปิกฤดูร้อนโตเกียว 2020 ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่สหรัฐฯ ให้เงินรางวัลนักกีฬาพาราลิมปิกเท่ากับนักกีฬาโอลิมปิกโตเกียว 2020 

การเกิดขึ้นของก้าวกระโดดที่สำคัญนี้ เกิดขึ้นหลังจากนักกีฬาพาราลิมปิกสหรัฐฯ คว้าเหรียญรางวัลถึง 36 เหรียญและขึ้นเป็นที่หนึ่งในตารางการแข่งขันพาราลิมปิกฤดูหนาวเมื่อปี 2018 ณ เมืองพย็องชัง จังหวัดคังวอน ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คณะกรรมการโอลิมปิกและพาราลิมปิกแห่งสหรัฐอเมริกาหารือเกี่ยวกับการให้เงินรางวัลนักกีฬาพาราลิมปิก และมีมติเห็นสมควรให้เงินรางวัลนักกีฬาพาราลิมปิกเท่ากับนักกีฬาโอลิมปิก

ซาราห์ เฮิร์ชแลนด์ (Sarah Hirshland) ซีอีโอคณะกรรมการโอลิมปิกและพาราลิมปิกแห่งสหรัฐอเมริกากล่าวว่า “นักกีฬาพาราโอลิมปิกเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพนักกีฬา พวกเขาควรให้รางวัลอย่างเหมาะสม” 

ปัจจุบันนักกีฬาพาราลิมปิกที่คว้าหรียญทองจะได้เงิน 37,500 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 1,252,406.29 บาท เหรียญเงิน 22,500 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 751,433.77 บาท  และเหรียญทองแดง 15,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 500,962.52 บาท บาท การปรับเงินรางวัลเช่นนี้ ทำให้นักกีฬาพาราลิมปิกบางคนได้รับเงินตอบแทนมากขึ้นถึง 400% เมื่อเทียบกับรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ที่ระบุว่า ก่อนหน้านี้ระเบียบการให้เงินนักกีฬาพาราลิมปิกจะให้นักกีฬาที่ได้เหรียญทอง 7,500 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 250,481.26 บาท เหรียญเงิน 5,250 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 175,336.88 บาทและเหรียญทองแดง 3,750 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 125,240.63 บาท อย่างไรก็ดี หลังจากมีการปรับเงินรางวัลนักกีฬาพาราลิมปิกคณะกรรมการก็ได้มอบเงินรางวัลย้อนหลังให้กับนักกีฬาทุกเหรียญรางวัลจากพาราลิมปิกฤดูหนาวในปี 2018 ด้วย เป็นเงินมากกว่า 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

หลังจากประกาศนี้เผยแพร่ ออกซาน่า มาสเตอร์ส (Oksana Masters) แชมป์สกีพารานอร์ดิก ทีมชาติสหรัฐฯ ได้โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “การปรับเกณฑ์การให้เงินรางวัลนี้ทำให้ฉันตื้นตันมาก ไม่ใช่เพราะว่าพวกเราจะได้เงินเท่ากับนักกีฬาโอลิมปิก แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เห็นว่านักกีฬาพาราลิมปิกมีคุณค่าเท่ากับนักกีฬาโอลิมปิก”