Skip to main content

คุยกับคนพิการผู้ค้าสลากท่ามกลางโควิด-19 ระบาดหนัก “ถ้าไม่ทำ ก็ไม่มีกิน”  

โจน อายุ 49 ปี เป็นอัมพาตครึ่งซีกและใช้ชีวิตประจำวันบนวีลแชร์ เขาขายลอตเตอรี่มา 4 ปีกว่า โดยขับวีลแชร์บริเวณถนนรังสิตนครนายกเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร แม้จะเข้าใจสถานการณ์ของโรคระบาดดี แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจและหนี้สินจึงไม่สามารถหยุดอยู่บ้านได้ 

“ตั้งแต่มีโควิด-19 ก็ขายลำบากขึ้นมาก เราหยุดครั้งเดียวคือตอนที่เขาเลื่อนการออกรางวัลไปช่วงการระบาดรอบแรก ตอนนั้นแย่มาก ถ้ารอบนี้มีการเลื่อนอีกพวกผมคงอยู่ไม่ได้ เขาบอกให้หยุดแต่หนี้เราไม่หยุด รายจ่ายเดินหน้าตลอด ทั้งค่ากิน ค่าเช่าบ้าน”

“ผมเป็นคนรักการทำมาหากิน จะเสี่ยงยังไงเราก็ต้องไป คนพิการอย่างเราก็ไม่รู้จะไปประกอบอาชีพอะไรแล้วนอกจากขายลอตเตอรี่ จุดไหนเราก็ต้องเข้าไป ติดเชื้อสัปดาห์นี้ 15,000 คน ต่อไป อาจจะถึง 20,000 คน ถามว่ากลัวไหมก็กลัว ก็ยังดีที่ได้วัคซีนไป 1 เข็มให้พออุ่นใจได้บ้าง ถ้าต้องกักตัวอยู่บ้านแล้วจะเอาเงินที่ไหนกินหรือถ้าไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้านแล้วจะเอาที่ไหนกักตัว เงินกู้เขามาแล้วยังไงก็ต้องใช้ ถ้าไม่ขายล็อตเตอรี่ผมก็ไม่มีรายได้จากทางอื่นแล้ว ถ้าได้หวยมาแล้วเต็มที่งวดหนึ่งก็ขายได้แค่ 12 วัน ขายไม่หมดก็กลายเป็นเศษกระดาษไป” 

“ผมเป็นคนพิการแบบนี้จะไปทำงานอย่างอื่นก็ไม่มีใครรับ เราขายหวยเพื่อประทังชีวิตเพราะมีทางเลือกแค่นี้ แม้จะเสี่ยงโรคร้ายก็ต้องยอมเพื่อปากท้อง ผมตื่นแต่เช้าออกจากบ้าน 7 โมง นั่งรถแท็กซี่ไปคลอง 8 แล้วเข็นวีลแชร์ขายมาเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงบ้านแถวคลอง 1 เหนื่อยก็ไม่เป็นไรปั่นจนชินแล้ว แต่ที่เหนื่อยมากขึ้นก็เพราะยอดขายตกจนกลัวจะไม่พอรายจ่าย”

“ผมอยากให้ทุกคนได้วัคซีนไวๆ วัคซีนที่มีคุณภาพ โรคร้ายนี้จะได้สลายหายไปสักที แล้วก็ขอความกรุณาอย่าเลื่อนออกหวยเลยครับเพราะเราไม่มีที่จะทำมาหากิน ถ้าหวยไม่ออกพวกผมก็หมดปัญญา หวยคือชีวิตของผม”