Skip to main content

สัมภาษณ์ นพ.เรวัต วิศรุตเวช รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ถึงเรื่องนโยบายด้านคนพิการ ที่จะเน้นทั้งในเรื่องสภาพแวดล้อม การเดินทางที่สะดวก ครบครัน ปลอดภัย และการจัดการกองทุนคนพิการ รวมถึงกองทุนสวัสดิการอื่นๆ ให้มีประสิทธิภาพอย่างสูงที่สุด

ประสบการณ์คนพิการที่ผ่านมา

นพ.เรวัต: ผมเคยเป็นอดีตอธิบดีกรมการแพทย์ โดยมีสถาบันที่เกี่ยวกับคนพิการคือ ศูนย์สิรินธร เพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ  ที่มีพันธกิจคือเป็นองค์กรนำในด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ระดับสากล และมุ่งสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนโดยมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ฉะนั้นในศูนย์มีจึงองค์ประกอบทุกอย่างทั้งพื้นฟู บำบัดด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย และมีบุคลากรคุณภาพ ที่ใหญ่ที่สุด

การได้ดูแลศูนย์นี้ทำให้มีความสัมพันธ์กับเรื่องคนพิการ และเห็นปัญหาของคนพิการ หลักทางการแพทย์มองว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของการป้องกัน หากเราสามารถป้องกัน จะช่วยลดจำนวนคนพิการเกิดใหม่โดย หนึ่ง ป้องกันอุบัติเหตุ อุบัติเหตุในประเทศไทยต่อปีมีหลายหมื่นราย ทำให้เกิดคนพิการขึ้น 5 พันคนต่อปี

สอง ป้องกันโรค 2 โรคที่สำคัญมากคือ เบาหวานและความดันโลหิต ขณะนี้มีผู้ป่วยโรคเบาหวานในไทย 2.7 ล้านคน ส่วนโรคความดันโลหิตสูงมีประมาณ 5.7 ล้านคน หากเราไม่ดูแลรักษา ควบคุมให้ดี จะนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนกลายเป็นโรคอื่นต่อไปหลายโรค เช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคตา โรคเส้นเลือดในสมองตีบหรือแตก เบาหวานสามารถทำให้เส้นเลือดที่จอประสาทตาแตกจนตาบอด และกลายเป็นคนคนพิการทางการมองเห็น โรคความดันโลหิตสูงถ้าไม่ควบคุมให้ดี และเส้นเลือดในสมองแตกก็จะเกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตนอนติดเตียงหรือใช้วีลแชร์

สิ่งที่เราต้องทำคือ การคัดกรองโรค เพื่อรักษาและควบคุมก่อนที่โรคจะดำเนินไปสู่โรคแทรกซ้อนอื่น เราทำได้เยอะมากก่อนถึงขั้นซื้อวีลแชร์ให้คนพิการ รวมถึงผู้สูงอายุ นอกจากนี้จะต้องส่งเสริมการออกกำลังกายด้วย

นโยบายคนพิการของเสรีรวมไทย

นโยบายของพรรคเสรีรวมไทยเป็นทั้งอุดมการณ์และนโยบาย เป้าหมายของเราคือ ทำอย่างไรให้คนพิการรู้สึกและสามารถใช้ชีวิตอย่างเป็นส่วนหนึ่งของสังคมได้ มีสิทธิเสมอภาคเช่นคนทั่วไป ตั้งแตบ้านจนถึงที่ทำงานจะต้องอำนวยความสะดวก หรือออกแบบสิ่งก่อสร้างต่างๆ ให้มีชีวิตที่สะดวกสบายและปลอดภัย มีระบบขนส่งมวลชนที่ดีไซน์สำหรับเขา เช่น รถไฟฟ้า ควรจะมีลิฟต์โดยสารขึ้นลง ไม่ใช่ลงได้ แต่ขึ้นไม่ได้ รถเมล์ที่มีอยู่ควรเป็นชานต่ำ คนหูหนวกก็ควรจะมีป้ายบอกที่เห็นชัดเจน สำหรับคนตาบอดก็ควรจะต้องมีสัญญาณเสียง เป็นต้น

นโยบายของพรรคทุ่มเทเรื่องนี้อย่างมาก เพราะการเดินทางได้สะดวกทำให้กิจวัตรประจำวันเป็นไปได้อย่างดี คุณภาพชีวิตของเขาก็จะดีขึ้นอย่างมาก  โดยเฉพาะเรื่องอาคาร สถานที่ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่ติดต่อทำงาน โรงเรียน สถานที่ราชการ ห้างสรรพสินค้า ทุกอาคารจะต้องถูกบังคับด้วยกฎหมายเรื่อง Universal design ไม่ว่าจะเป็นทางเดิน ทางลาด ห้องน้ำ ลิฟต์ ฯลฯ อาคารเก่าก็ควรจะต้องมีแก้การแก้ไขเพิ่มเติม

นอกจากนี้ยังมีอีก 2 ประเด็นสำคัญที่ควรจะต้องดำเนินการคือ เรื่องการศึกษา ที่ต้องส่งเสริมและสนับสนุน หรือจัดการให้คนพิการเข้าถึงระบบการศึกษาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสร้างอุปกรณ์การช่วยเหลือหรือผู้ช่วยเหลือ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษา และเมื่อจบการศึกษา การทำงานเป็นสิ่งที่คนพิการต้องการ รัฐจะต้องส่งเสริมให้เขามีงานทำจริง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 มาตรา 33 และ 35 ที่กำหนดให้บริษัท พนักงาน 100 คน ต้องรับคนพิการ 1 คน บริษัทสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการส่งเงินเข้ากองทุน ซึ่งจริงๆไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะคนพิการต้องการทำงาน การมีงานทำสำคัญกว่าเงินอุดหนุนรายเดือน เพราะทำให้เขาภูมิใจ มีศักดิ์ศรี ได้ใช้ความรู้ ทักษะและความเชี่ยวชาญ

ทำอย่างไรให้เกิดการจ้างงานจริง

เท่าที่ทราบกองทุนมีเงินอยู่ประมาณ 1.2 หมื่นล้าน ซึ่งต้องมีการบริหารจัดการในจุดนี้อย่างดี โดยหลักการของกองทุนไม่ควรเอาไปเป็นเบี้ยรายเดือน หรือเป็นเบี้ยยังชีพ เงินส่วนนี้ต้องงอกเงยและเหมาะสม เกิดประโยชน์สูงสุดกับคนพิการ และไม่ปล่อยให้ภาครัฐจัดการอย่างเดียว  ควรให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย

ความเป็นไปได้จริงและงบประมาณที่ใช้

ผมไม่คิดว่าการทำสิ่งเหล่านี้จะแพง งบอะไรที่ไม่จำเป็นก็สามารถตัดทิ้งได้และนำมาสนับสนุนงานทางด้านสังคม เช่น งบที่คิดว่าไม่ต้องมี อย่างเรือเหาะอยู่แล้ว เรือดำน้ำ GT 200 ที่ตรวจอะไรไม่ได้เลย คิดว่าไม่มีอะไรที่งี่เง่ากว่านี้อีกแล้วในโลกนี้ หากถูกหลอกให้ซื้อ GT 200 ได้เราสามารถนำเงินนั้นมาสร้างสวัสดิการที่ดีถ้วนหน้า  ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ ปัญหาบัตรทองด้อยคุณภาพ เป็นเพราะรัฐบาลอ่อนด้อยมากในการบริหารจัดการ และให้ความสนใจน้อยมาก

เมืองไทยมีสิทธิอยู่ 3 ประเภท เพราะมีกองทุนอยู่ 3 กองทุน กองทุน 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนข้าราชการ และกองทุนประกันสังคม ทั้ง 3 กองทุนมีที่มาที่ไปต่างกันเยอะมาก ต้นกำเนิดของกองทุนมันต่างกัน ฉะนั้นการรวมกองทุนยังเป็นปัญหา ดังนั้นเบื้องต้นจึงควรปรับคุณภาพของกองทุนให้มีคุณภาพมากขึ้น หรือเพิ่มงบค่าใช้จ่ายต่อหัวให้มากขึ้น

เงินอุดหนุนรายเดือนของคนพิการไม่สำคัญเท่ากับงาน หรืออาชีพที่ยั่งยืนแล้ว เพราะนอกจากจะทำให้ภูมิใจ  รู้สึกมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แล้ว ทักษะ ความรู้ ความชำนาญนั้นยังมีคุณค่ามากกว้าเงินอุดหนุนรายเดือนที่ใช้ไม่พอ แต่สำหรับคนที่ไม่สามารถทำงานได้ ก็ต้งสนับสนุนคนละแบบ

ระบบสนับสนุนจะได้ประโยชน์หากมองว่า คนเท่ากัน

หากมองว่า เขาเป็นสมาชิกปกติของสังคมได้ เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่ต้องการความสะดวกเพื่อดำรงชีวิต โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น เขาก็ควรต้องอยู่โดยที่ไม่ต้องขอความช่วยเหลือ ไม่ควรต้องสงเคราะห์ แต่ควรส่งเสริม หรือสนับสนุนให้เขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเอง

 

อ่านนโยบายคนพิการจากพรรคอื่นๆ ได้__ที่นี่__

คชรักษ์ แก้วสุราช
มัลติมีเดีย, Editor
content creator ที่หน้าตาดีที่สุดในตำบลบึงยี่โถ