Skip to main content

จากรายงานพบว่า การเกิดอาชญากรรมจากความเกลียดชัง หรือที่เรียกว่า Hate Crimes ต่อเด็กพิการในสหราชอาณาจักรนั้น มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สูงถึงร้อยละ 150 ภายใน 2 ปีที่ผ่านมา


ครอบครัวเจอมอน และลูกสาววัย 23 เดือนของพวกเขา

จากสถิติของตำรวจทั่วสหราชอาณาจักรพบว่า มีรายงานการเกิดเหตุการณ์เพิ่มขึ้นจาก 181 เป็น 450 เคส ซึ่งนับว่าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 148

และเช่นเดียวกัน จากสถิติของคนพิการทั้งหมด พบว่ามีการล่วงละเมิดคนพิการเพิ่มขึ้นเกินเท่าตัว โดยเมื่อเปรียบเทียบจากปี 2014-2015 กับ 2015-2016 แล้ว ตัวเลขเพิ่มขึ้นจาก 1,531 เป็น 3,079 เลยทีเดียว สถิตินี้นับรวมทั้งการละเมิดผ่านทางออนไลน์ และชีวิตจริง

อาชญากรรมจากความเกลียดชังความพิการ เกิดขึ้นทั้งในโลกออนไลน์และชีวิตจริง ซึ่งเหยื่อทุกคนจะกลายเป็นเป้าหมายเพราะความพิการของพวกเขา

อาแมนดา แบทเทน พาร์ทเนอร์ขององค์กรเด็กพิการระบุว่า ผลการสำรวจจะพบว่า ส่วนมากการรายงานเรื่องอาชญากรรมจากความเกลียดชังนี้มักทำโดยผู้ปกครอง เพราะเมื่อครอบครัวหรือผู้ปกครองที่อาจจะเป็นคนที่พาคนพิการ หรือดูแลคนพิการเมื่อต้องออกจากบ้าน พวกเขามักรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งรวมไปถึงการโพสต์รูปบนโซเชียลมีเดีย  และได้การตอบรับเชิงวิจารณ์ว่าลูกๆ ของพวกเขาจะมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ค่อยดีนักเนื่องจากความพิการ

นอกจากนี้ยังรวมไปถึงอุปสรรคที่พวกเขาต้องเจอ อันเกิดจากการเข้าไม่ถึงของสถานที่ต่างๆ และนั่นอาจบั่นทอนกำลังใจในการใช้ชีวิตและการพาลูกๆ ออกมาใช้ชีวิตในสังคม

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงจากความเกลียดชังประเภทไหน ก็เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และการเพิ่มขึ้นของเหตุการณ์นั้นมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของครอบครัวที่ต้องการรายงานถึงเหตุการณ์ด้วย ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้จำนวนของผู้ได้รับผลกระทบกลายเป็นเรื่องที่ถูกรับรู้มากขึ้น นอกจากนี้เขายังเน้นย้ำว่า ข้อมูลของเหยื่อที่ไม่ได้อยู่ในรายงานก็ถือเป็นความท้าทายที่จะต้องจัดการ ทั้งการสร้างความตระหนักรู้ การสร้างช่องทางในการรายงาน ทั้งกับตัวคนพิการ ผู้ดูแลและครอบครัวของพวกเขาด้วย

เว็บไซต์บีบีซีได้กล่าวถึงเหตุการณ์ของบีธาน เจอมอน ซึ่งลูกสาววัย 23 เดือนของเธอ ลิเดียมีภาวะของเหลวคั่งในสมอง จนทำให้หัวของเธอมีรูปร่างผิดปกติ ใหญ่กว่าหัวเด็กวัยเดียวกัน 2 เท่า และยังมีภาวะร่วมของโรคซีรีบรัล เพาร์ซี จนทำให้ต้องใส่สายให้อาหาร กระนั้นเองบีธานกล่าวว่า ในโลกออนไลน์ต่างพูดถึงลูกของเธอว่า ลิเดียน่าจะตายไปเสีย หรือทำไมพวกเรายังปล่อยให้เธออยู่แบบนี้อีก

 “การคอมเม้นท์เรื่องต่างๆ บนโลกออนไลน์นั้นทำได้ง่ายมาก และมันแย่สุดๆ สามีของฉันต้องพาฉันเข้าสู่โหมดออฟไลน์สักวันสองวันเพื่อทำให้แน่ใจว่าฉันจะไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องแย่ๆ ที่พวกเขาพูด เขาก็แค่อยากปกป้องฉันเท่าที่เขาสามารถทำได้ ”