Skip to main content
22 ต.ค.2565 Thisable.me, ศูนย์การดำรงชีวิตอิสระของคนพิการ พุทธมณฑล จัดงานเสวนาภายใต้หัวข้อ ‘เสรีภาพ หรือเสรีพร่อง’ ตอน ‘เย็ด ยัง ยาก’ ชวนผู้ฟังสำรวจมายาคติ ความเชื่อและความเข้าใจผิดๆ ของคนในสังคมที่มีต่อเรื่องเซ็กส์และความพิการที่ ดีคอมมูเน (Die Kommune) เลียบคลองทวีวัฒนา โดยมีผู้ร่วมเสวนา 4 คน คือ ยะหยา The Pillow Talks, ชยธร ชนะโชคชัยสกุล, กนกวรรณ นาคนาม และอธิพันธ์ ว่องไว ร่วมเสวนา และมีวิปัศยา อยู่พูล เป็นผู้ดำเนินรายการ
 
ลิงก์ชมเสวนา ‘เสรีภาพ เสรีพร่อง’ ตอนเย็ด ยัง ยาก https://www.facebook.com/thisAble.me/videos/1246890609487907
 
วิปัศยาเริ่มต้นเสวนาด้วยการตั้งคำถามถึงพื้นที่ปลอดภัยในการพูดถึงเรื่องเซ็กส์ว่ามีมากแค่ไหน และพบว่าการพูดเรื่องเซ็กส์ก็ยากแล้ว เซ็กกับความพิการยิ่งยากเข้าไปใหญ่ งานเสวนาครั้งนี้จึงเหมือนเป็นการพูดถึงเรื่องที่ไม่ค่อยมีพื้นที่ปลอดภัย
 
 

คนพิการเงี่ยนไหม

กนกวรรณหรือหญิงจากเพจ yooyingsopa ผู้หญิงที่ใช้ชีวิตบนวีลแชร์ เธอพิการประเภท 3 หรือทางการเคลื่อนไหวจากอุบัติเหตุ ทำให้อ่อนแรงตั้งแต่ใต้ราวนม อุบัติครั้งนั้นเกิดขึ้นหลังคบหาดูใจกับแฟนได้ไม่กี่เดือนกระทั่งปัจจุบันก็คบได้ 5 ปีแล้ว เธอเล่าว่า ตัวเองเป็นมนุษย์ทั่วไปแค่มีความผิดปกติทางร่างกายบางอย่าง หัวใจก็ปกติ ตั้งแต่รู้ว่าเป็นอัมพาต ขาขยับไม่ได้ ก็เกิดความอยากรู้ว่า จะมีเซ็กส์ได้ไหมเพราะก่อนพิการเซ็กส์ก็คือความสุขอย่างหนึ่ง ด้วยความอยากรู้อยากลองทั้งที่ตอนนั้นยังคาสายสวนปัสสวะอยู่ด้วยซ้ำ ก็เลยลอง ลองท่านี้ไม่ได้ก็ลองท่าใหม่ ส่วนตัวหญิงคิดว่า สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ระหว่างเรากับพาร์ทเนอร์ต้องเรียนรู้ร่วมกัน บางท่าที่แอดเวนเจอร์มากก็อาจทำไม่ได้ กว่าจะลงตัวเธอก็ลองมาหลายท่วงท่า เธอสะท้อนว่าที่ผ่านมาไม่ค่อยเห็นพื้นที่ที่ให้คนพิการได้พูดเรื่องเซ็กส์กันมากสักเท่าไหร่

อธิพันธ์หรือน้ำพุ คนพิการทางการเคลื่อนไหวตั้งแต่กำเนิดจาก Cerebral Pulsy ที่ทำให้แขนขาเกร็ง พูดไม่ชัด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ปัจจุบันมีแฟนคบกันมา 3 ปีแล้ว ได้สะท้อนว่า ตอนวัยรุ่นก็รู้สึกอยากรู้เรื่องเพศเป็นปกติ ตัวเขาเองอยู่กับครอบครัวที่มองว่าคนพิการทำอะไรไม่ได้ มีคนรักไม่ได้ จนตัวเองก็มองว่าตัวเองมีแฟนไม่ได้ การมีเซ็กส์เป็นไปไม่ได้ หลังช่วยตัวเองครั้งแรกตอนอายุ 13-14 ก็รู้สึกผิด กลัวคนในครอบครัวต่อว่า กระทั่งได้ได้รู้จักกับแนวคิดการดำรงชีวิตอิสระก็เกิดความเชื่อในตัวเองและมีแฟนคนแรกทางออนไลน์ ก็โกหกว่าเดินได้ปกติ คุยเซ็กส์โฟนกันเกือบปี แต่ไม่กล้าเจอเพราะกลัวผู้หญิงจะรับไม่ได้ แต่ปรากฏว่าเขารับได้ หลังจากนั้นก็เริ่มมีความมั่นใจไปถึงขั้นที่เรียกเจ้าชู้ ทำผู้หญิงร้องไห้ แต่ตอนนี้เลิกเจ้าชู้แล้ว (หัวเราะ)
 

ชยธรหรือเปา เป็นคนพิการประเภท 3 ตั้งแต่ใต้ราวนมลงไปขยับไม่ได้ แต่ก็ช่วยเหลือตัวเองได้ทุกเรื่อง เขาเน้นย้ำว่า ไม่มีสักเรื่องที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ปัจจุบันมีแฟนและคบกันหลังจากพิการ เปาสะท้อนว่า เซ็กส์เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ คนพิการมีความรู้สึก มีความต้องการ เห็นอะไรที่ถูกตาต้องใจก็มีความรู้สึก ตัวเขาเข้าใจในมุมของคนทั่วไปที่มีสงสัยว่าเป็นแบบนี้แล้วมีเซ็กส์อย่างไร หรือบางคำถามแปลกๆ เช่น พิการแล้วยังต้องสนใจเรื่องพวกนี้อีกเหรอ ซึ่งดูแล้วเป็นคำถามที่ไม่ให้เกียรติกัน “พิการแล้วต้องสวดมนต์ทุกคืนเหรอ คนร่างกายปกติก็เงี่ยน กูก็เงี่ยนเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าพิการแล้วไม่เงี่ยนเพราะผมก็ยังใช้ชีวิตปกติ กิน ขี้ ปี้ นอน”

ยะหยากล่าวว่า ตัวเองไม่ได้ทำเรื่องเซ็กส์กับคนพิการโดยตรง แต่อยากให้เซ็กส์เป็นเรื่องของทุกคน และนับรวม (Inclusive) มากที่สุด จึงมองว่า หากไม่ได้พูดเรื่องเซ็กส์และความพิการก็คงไม่นับว่าประสบความสำเร็จ เธอสะท้อนว่าทุกวันนี้สังคมยังพูดถึงเซ็กส์ด้วยความตลกขบขันหรือทำให้อาย แต่ไม่ได้พูดว่าเย็ดแบบไหนถึงดี แบบไหนคนมีจิ๋มถึงฟิน คนมีจู๋ถึงฟิน ยิ่งเซ็กส์ของคนพิการก็ยิ่งไม่ค่อยถูกพูดถึง 
 
 

เย็ดยังไง

เปาเล่าว่า เขาก็เย็ดปกติ แต่วิธีการอาจต่างจากคนไม่พิการนิดหน่อย เนื่องจากใต้ราวนมลงไปไม่มีความรู้สึก ทำให้ไม่เสียว แต่แค่เห็นเข้าๆ ออกๆ ก็มีความสุขเหมือนสมองหลั่งสารอะไรสักอย่าง กล้ามเนื้อก็ได้ออกกำลังกาย มีการตึงกระตุก ตัวเขาเองไม่ได้สรรหาความเสียว แต่หาความสุขในระหว่างมีเซ็กส์ และการเห็นคู่นอนเสียวก็มีความสุชแล้ว เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า แล้วเมื่อไม่มีความรู้สึก อวัยวะเพศแข็งได้อย่างไร เปาก็สะท้อนให้ฟังว่า เขาพิการโดยสมบูรณ์ทำให้อวัยวะเพศแข็งเป็นช่วงสั้นๆ ถ้ามีเซ็กส์ก็จะขาดตอน จึงต้องใช้ยาช่วย และการกินยาเองก็ต้องกินแบบมีศิลปะ เช่น ต้องกินตอนท้องว่างก่อนมีเซ็กส์และอย่ากินพร้อมแอลกอฮอล์

พุมีความรู้สึกปกติ แต่เขาก็สะท้อนถึงคนทั่วไปที่มักเข้าใจว่า เขาไม่มีความความรู้สึกหรือไม่สามารถมีเซ็กส์ได้ แม้จะไม่สามารถทำบางท่าได้ แต่พุก็สะท้อนว่าเขาสามารถช่วยให้ผู้หญิงเสร็จได้ หลายครั้งผู้หญิงก็เป็นฝ่ายอยู่ข้างบนหรือนอนตะแคง แม้เรื่องนี้จะคุยกันได้ แต่เขาก็เคยเจอเหตุการณ์ถูกบอกเลิกเพราะแฟนบอกว่าเขาให้ความสุขไม่ได้ เขาจึงมองว่าเซ็กส์เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุย ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ถ้าเอาแต่ท่าเดิมก็เบื่อ บางทีเขาก็จินตนาการ ชวนคุย หรือสมมติบทบาทว่า ตอนนี้อยู่ข้างบนนะ
 


หญิง กล่าวว่าความพิการของเธอเป็นแบบไม่สมบูรณ์ จึงยังมีความรู้สึกหลงเหลืออยู่มาก สำหรับเธอที่เป็นผู้หญิงไม่ได้มีปัญหาเรื่องท่าทางอะไรมากมาย แต่ก็อาจจะไม่โลดโผนเหมือนเมื่อก่อนกลายเป็นเป็นสาวน้อยคนหนึ่ง และเธอเองก็ยังมีความรู้สึกจึงถึงจุดสุดยอดได้

“โชคดีที่แฟนปฏิบัติกับเราเหมือนผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ต้องดูแลอะไรพิเศษ เคยชวนกันว่าลองแบบนี้มั้ย แต่ลองขึ้นไปแล้วก็เจอว่าไม่เวิร์คขยับไม่ได้ ก็เหนื่อยดี”

ยะหยามองว่า อยากทะลายความคิดอย่าง คนไม่พิการต้องมีเซ็กส์สอดใส่เท่านั้นหรือจะจู๋แข็งแบบมั่นคง เพราะจริงๆ แล้วคนไม่พิการก็จู๋ไม่แข็งได้ ไม่จำเป็นจต้องสอดใส่ก็ได้ คนมีจิ๋มไม่จำเป็นต้องแตก ต้องเสร็จก็ได้ บางทีถ้าไม่ได้โฟกัสว่าต้องแตก ต้องเสร็จ แต่อยากให้โฟกัสว่าระหว่างทางนั้นดีไหมผ่านการคุยกัน

“ไม่ใช่ว่าคนไม่พิการจะเสียวจากท่าเดียวกัน คนไม่พิการบางคนก็ขึ้นข้างบนไม่ได้นะ เราไม่ได้เย็ดเพราะจะท้องอย่างเดียว แต่เราทำเพื่อมีความสุข ความสัมพันธ์ที่มีความสุขจึงสำคัญ”
 

ทำไมคนพิการไม่ไปสวดมนต์

เนื่องจากเปาเองก็มักเจอความไม่เข้าใจหรือการตัดสินของคนในสังคม เขาก็มีคำตอบที่เอาไว้ตอบคำถามเหล่านั้นว่า “แล้วมึงเป็นควยอะไรอ่ะไอ้เหี้ย เสือกเรื่องอะไรของกูวะ กูต้องมาสวดมนต์ ต้องไปบวชเลยมั้ยครับขนาดพระก็ยังเงื่ยนเลย”

พุ สะท้อนความไม่เข้าใจของคนในสังคมว่า เขาเคยซื้อบริการทางเพศแต่ตัวเองก็ไม่สามารถเลือกได้ พนักงานบริการบางคนก็นึกภาพไม่ออกว่าจะทำอย่างไร จึงไม่ทำ นั่งเฉยๆ เขารู้สึกว่าถูกรังเกียจจึงตัดสินใจบอกปฏิเสธ

“ช่วงหนึ่งแฟนผมท้อง คนบอกให้เอาเด็กออกเพราะไม่รู้ว่าลูกจะพิการไหม พิการแล้วจะเลี้ยงลูกได้เหรอ ผมคิดว่าผมตัดสินใจได้นะว่าหากเลี้ยงไม่ได้ก็ไม่อยากมี แต่นี่เขาตีตราเราว่าไม่ควรมีไปก่อนแล้ว”

หญิง เสริมว่าคนไม่พิการก็มีโอกาสที่จะมีลูกพิการเช่นกัน ส่วนตัวเธอมักเจอแต่คนน่ารัก ถามเพราะอยากได้ความรู้ ยิ่งพอความรู้ทางการแพทย์มีไม่ลึก มีตามตำราแต่เธอปฏิบัติจริง คนจึงมักแวะเวียนมาถามเธอ

ยะหยาสะท้อนว่า อยากลบภาพจำที่คนอาจมองเป็นคนสองกลุ่มคือพิการและไม่พิการ ให้กลายเป็นความคล้ายคลึงของปัญหาที่พวกเขาเจอ คนส่วนมากที่ปรึกษา The Pillow Talks ก็ถามว่า ทำแบบไหนถึงเสร็จไม่ได้แยกว่าพิการหรือไม่ คนไม่พิการก็อาจเจอปัญหาอย่างเดียวกับคนพิการเพียงแต่วิธีการต่างกัน เรื่องจู๋แข็งคนไม่พิการก็เจอเหมือนกัน

“ไม่อยากให้จำว่าไม่พิการต้องเย็ดดี เย็ดนาน เราไม่สามารถบอกว่าไม่พิการเย็ดยังไงก็แตก ที่สุดแล้วเซ็กส์เป็นเรื่องเคสบายเคสอาศัยการคุยกัน การมีภาพจำแบ่งเป็นสองแบบยังไงก็ไม่พอ ขนาดคนพิการแต่ละคนเล่ายังไม่เหมือนกันเลย” 

ของฝากทางบ้าน

ผมพิการแต่กำเนิด สังคมปัจจุบันอาจจะมองว่าทำไม่ไม่เอาเวลาไปทำอย่างอื่น แต่ผมอยากให้สังคมมองเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องปกติธรรมชาติของมนุษย์ ถึงจะบอกว่าคนพิการไทยเป็นคนพุทธแต่เขาก็อารมณ์ คนพิการมีเพศ มีเซ็กส์ได้เมื่อเราพร้อม” พุกล่าว

“คนพิการก็มนุษย์ มีความต้องการ สามารถใช้ชีวิตได้ ยังเงี่ยนเหมือนกับทุกคน มัวแต่สงสัยกันอะไม่ลองกันหน่อยเหรอว่าเป็นยังไง” เปาฝาก

“อยากให้โรงพยาบาลให้ความรู้เรื่องเซ็กส์กับคนที่เพิ่งประสบอุบัติเหตุ อยากให้ครอบครัวหรือโรงเรียนสอนว่าเห็นคนพิการไม่ใช่เรื่องประหลาดและเกิดขึ้นได้ ความหลายหลายไม่ใช่เรื่องประหลาด แม้กระทั่งเรื่องเซ็กส์” หญิงเสริม