เวลาที่คุณนึกถึงทางเท้าไทยแลนด์ ภาพแรกที่คุณเห็นคือภาพแบบไหน เป็นทางเดินที่สะอาด ใครๆ ก็ใช้ได้ หรือทางเท้าที่ขรุขระ บิดเบี้ยว มีแต่รอยแหว่ง รอยแตกเต็มไปหมด หากเห็นภาพแบบแรกเราก็ขอเดาว่า คุณอาจจะไม่ใช่คนแถวนี้

วันนี้ ThisAble.me จะพาทุกท่านไปพบกับรวมข่าวทางเท้าบ้านเรา ที่ผ่านมามีปรากฎการณ์ทางเท้าอะไรเกิดขึ้นบ้าง คนแก้ปัญหากันอย่างไร กับบางเหตุการณ์ที่ท่านอาจจะร้อง เฮ้ย! แบบนี้ก็ได้เหรอ แม้ข่าวจะเก่าบ้างใหม่บ้าง แต่เราขอรับรองว่า ทุกปัญหายังอยู่เหมือนเดิม (อ่าว) แถมเรายังเตรียมเคล็ดลับการเอาตัวรอดในหลายกรณีเอาไว้ หากท่านใช้ได้ก็ใช้ ใช้ไม่ได้ก็ทำใจกันไป (โถ ฉงฉาน)

คำเตือน: ภาษาและคำที่ใช้ในบทความนี้ ผิดหลักการและมีการใช้คำไม่สุภาพ เพื่อสร้างอรรถรสในการอ่าน ทีมงานต้องขออภัยมา ณ ที่นี้

“เหยียบระเบิดระวังขาขาด เหยียบฟุตปาธระวังน้ำเน่า”

เห็นพื้นโล่งๆ เนียนๆ อย่าได้วางใจ หลายคนพลาดมาแล้วกับ “กับดักระเบิดน้ำเน่า” ถือเป็นด่านสุดหินของชาว กทม.ที่เราคิดว่าคุณควรไปเจอสักครั้งในชีวิต แม้พื้นจะสะอาดสะอ้าน นวลเนียน ไม่เลอะเทอะ แต่ถ้าเกิดคุณเหยียบกระเบื้องผิดแผ่นแล้วละก็... แม้จะไม่ถึงขั้นตู้มมมมม กลายเป็นโกโก้ครั้นซ์ แต่น้ำขังที่อยู่ใต้แผ่นกระเบื้องจะกระเด็นมาโดนขาอันเรียวบาง พร้อมกลิ่นอันน่าจดจำที่จะติดขาคุณไปตลอดจนกว่าจะได้ไปล้างขา หมดสิ้นความฝันชีวิตดีๆ ที่ลงตัวของคุณไปโดยปริยาย

นี่เป็นเรื่องคาดเดายากสำหรับเราที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพ เพราะไม่รู้ว่ากระเบื้องแผ่นไหนบ้างที่จะสะสมน้ำหมักสูตรเข้มข้นเอาไว้ เราเลยปล่อยให้กลายเป็นเรื่องที่ชินชา ทำใจและปลงๆ ชีวิตกันไปตามประสาชาวไทย แต่ไม่ใช่สำหรับชาวต่างชาติบางคน โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า “Stuart Jay Raj” แกเป็นหนึ่งในเหยื่อเคราะห์ร้ายของกับดักสุดอันตรายนี้ เมื่อความอดทนถึงขีดสุด แกถ่ายรูปกับระเบิดนี้เก็บไว้และนำมาแชร์ถึงพิษภัยระเบิดน้ำเน่า เพราะไม่อยากให้ใครเป็นเหยื่อซ้ำสองของสุดยอดกับดักไทยแลนด์ชิ้นนี้

ที่สนุกกว่าคือหลังจากนั้นบนกระทู้บอร์ดออนไลน์ ได้มีคนนำภาพของ “Stuart Jay Raj” ไปโพสซ้ำอีกครั้ง หลังจากนั้นความเห็นมากมายก็ตามมา ในฐานะที่ฟุตปาธได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนวัฒนธรรมไทย หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมถึงไม่เทปูนไปเลยทีเดียวจบ ซึ่งก็มีคนมาตอบว่า “การปูกระเบื้องเหมาะกับการแก้ไขพื้นผิวถนนเพราะเวลาต้องปรับปรุงโครงสร้างหรือทำอะไรอย่างอื่น จะสามารถรื้อออกง่าย แต่ปัญหาก็คือเวลารื้อออกมาแล้วไม่สามารถใส่กลับให้เหมือนเดิม มันเลยเป็นอย่างทีเห็น” มีคนตั้งข้อสังเกตว่า “น้ำที่อยู่ใต้แผ่นกระเบื้องนั้นอาจไม่ใช่แค่เพียงน้ำฝนซะทีเดียว อาจเป็นน้ำล้างจานของร้านค้าแถวนั้นด้วย” แต่ความเห็นที่ถูกใจทีมงานที่สุดเป็นความเห็นที่ว่า “มีให้เดิน ก็บุญแล้ว” เรียกได้ว่า บอกให้สำนึกบุญคุณกันเลยทีเดียว อยากให้เจียมๆ ไว้ จะได้ไม่ต้องบ่นอะไรมาก ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่าความเห็นดังกล่าวพูดจริงหรือประชด

ตลอดความเห็นยาว 2 หน้าในกระทู้นั้น ทำให้เราเห็นว่า มีคนเดือนดร้อนมากมายแค่ไหน หลายคนเล่ารายละเอียดตั้งแต่แต่บริเวณที่พบว่าเป็นกระเบื้องจุดไหน ซอยไหน รายละเอียดว่าน้ำที่กระเด็นมาสีอะไร และมีส่วนผสมของอะไรบ้าง อย่าง ตะไคร่ ขี้หมา (แหวะ) กลายเป็นภาพจำยิ่งกว่าเพลงของป๊อบ ปองกูล แต่ก็เป็นที่หน้าเสียดายยิ่ง เพราะเราขี้เกียจตามอ่านแล้ว ใครสนใจก็ลองไปตามอ่านกันต่อได้ตามลิงก์ที่เราแนบไว้ด้านล่าง

แต่สังคมไทยใช่ว่าจะไร้ซึ่งหนทางขนาดนั้น เราไปเจอคนที่เขียนข้อมูลเกี่ยวกับเคล็ดลับการหลบระเบิดน้ำเน่า (ถึงกับต้องใช้คำว่าเคล็ดลับเลยนะ ไม่ธรรมดาจริงๆ) นั่นก็คือ lisaguru.com ได้อธิบายไว้ว่า เวลาเดินควรสังเกตแล้วเลือกเดินบนแผ่นกระเบื้องที่มีรอยเชื่อมระหว่างกระเบื้องที่แน่นหนา ถ้าเป็นร่องขาดอย่าไปเดินจะมีความเสี่ยงสูง กรณีที่เจอแต่กระเบื้องที่เป็นร่องขาดๆ ไม่เนียนเลยสักแผ่นจะทำยังไง ? เราได้คำตอบว่าให้เลือกเหยียบบริเวณกลางแผ่น อย่าเหยียบมุมหรือขอบ จะช่วยลดอัตราความเสี่ยงลง แต่ก็ไม่รับประกันซะทีเดียว เพราะต่อให้คุณระวังอย่างดีแต่คนที่เดินข้างๆ ก็อาจทำให้ขาคุณเลอะน้ำเน่าได้ ถ้าเขาไม่ระวังมากพอ ซึ่งอันนี้ต้องไปเคลียร์์เอง อิอิ

อ่านเคล็ดลับการหลบน้ำเน่าฉบับเต็มได้

“ทำบุญแทบตาย สุดท้ายเดินตกท่อ(ชำรุด)”

หากออเจ้าคิดว่า กับดักระเบิดน้ำจะเป็นที่สุดของที่สุดของอันตรายแล้วล่ะก็ เราขอบอกเลยว่า คุณคิดผิด! หากคุณมีโชคพอ ฟุตปาธแผ่นเดียวกันอาจไม่ได้แค่มีน้ำกระเด็นออกมาแต่มันจะทะลุลงไปแทน

ถ้าคุณคิดว่าหลุมดังกล่าวยุบแค่คืบเป็นหลุมเล็ก ตกลงไปแล้วเท้าเปียกๆ แฉะๆ คุณคิดผิด หลุมที่ว่านั้นยุบลึกระดับขาถึงเข่า หรือบางคนอาจหายไปครึ่งตัว (อะไรขนาดน้านนน) เคยมีกรณีของชายคนหนึ่งเดินอยู่ดีๆ แล้วขาทะลุลงไปในฟุตปาธ ระหว่างที่ร่วงลงไปนั้นขาก็ขูดกับขอบปูนข้างๆ ทำให้เกิดแผลเป็นแนวยาว (จากในข่าวที่เราไปสืบค้นไม่ได้ระบุว่า ใครเป็นคนจ่ายค่ารักษาพยาบาล น่าจะจ่ายเอง) และขาที่ร่วงลงไปก็ไม่ได้ทะลุมิติไปโผล่ที่ไหน แต่ลงไปในหลุมทรายเละๆ ที่ทะลุลงไปนั่นแหละ

โพรงทะลุมิติที่ว่าเกิดขึ้นจากการที่ดินบริเวณนั้นทรุดตัวลงจนเกิดโพรงกลวง ที่นัับถอยหลังรอผู้โชคดีมาเหยียบและร่วงลงไป ซึ่งนั่นนับเป็นความเท่าเทียมอย่างหนึ่งเพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ฟุตปาธตรงไหนดินจะน้อยใจและทรุดตัวลงไป เอาเป็นว่า เราขอแนะนำให้คุณทำบุญใส่บาตร อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรบ่อยๆ อาจจะช่วยลดปัญหาหลุมยุบใน กทม.ได้

บางคนอาจจะบอกว่า ถ้าฟุตปาธมันเดินยากนักก็ลงมาเดินถนนสิ เพราะถนนไม่น่าจะยุบลงไปได้ เราอยากให้คุณดูข่าวนี้ก่อน มีนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยคนหนึ่งเธอเดินชิวๆ ริมถนนอยู่กับเพื่อน พอเดินผ่านตะแกรงท่อระบายน้ำก็ไม่ทันได้สังเกตเห็นความชำรุดและรูที่กว้างที่ใหญ่กว่าปกติ ทีนี้พอเหยียบลงไป ขาข้างหนึ่งของเธอจึงวาร์ปลงไปในท่อ (ถ้านึกไม่ออกเรามีคลิป) ทำให้เกิดแผลยาว 15 ซม. (ซี้ดดด) นักศึกษาคนดังกล่าวระบุในข่าวว่า หลังจากประสบเหตุเธอต้องไปทำแผลทุกวันเนื่องจากตะแกรงดังกล่าวเต็มไปด้วยสนิม มีความเสี่ยงที่จะเป็นบาดทะยัก น้องนักศึกษาคนนี้ไม่ใช่ผู้โชคดีรายแรก ยังมีชายอีกคนที่เดินตกท่อจากกรณีฝาตะแกรงชำรุด รายนั้นเย็บแผลเป็นร้อยเข็ม แอนตาซิลไม่จ่ายแต่ กทม.จ่าย ในฐานะที่เป็นเจ้าของฝาท่อทะลุมิติ

ดูคลิปนาทีนักศึกษาตกท่อ

“ขับบนถนนไม่เฟี้ยวฟ้าว ขับบนทางเท้าสิเพลิดเพลิน”

ก่อนหน้านี้เราพูดถึงกับดักน้ำเน่าและฟุตปาธยุบกันไปแล้ว สิ่งที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้ไม่ใช่ภัยจากสิ่งของรอบตัวแต่เป็นภัยจากคนกันเองนี่แหละ ที่อยู่ดีไม่ว่าดีขับขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นมาบนทางเท้า เฉี่ยวชนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาอย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย แถมบางทีมีบีบแตรไล่ ทำเอาเราแทบจะขวัญหนีดีฝ่อตามๆ กัน

ไม่รู้ว่าเป็นเหตุผลมนต์กฤษณะกาลีอันใด พี่ท่านถึงได้ขี่ขึ้นมาถึงฟุตปาธขนาดนี้ อาจเป็นเพราะไม่อยากไปกลับรถไกลก็เลยย้อนศรขึ้นมาบนฟุตปาธ บ้างก็หนีการจราจรติดขัดบนถนนเลยพุ่งแรงแซงโค้ง ดูแล้วต่างคนก็ต่างมีเหตุมีผลเป็นของตนเอง น่าสนใจว่า ทำไมคนถึงได้ขึ้นมาขี่บนฟุตปาธกันจนเคยชิน ไม่ว่าจะเป็นเพราะถนนแคบ เส้นทางไม่เอื้ออำนวย หรือเพราะนิสัยส่วนตัวแต่คนซวยสุดเห็นจะเป็นคนเดินบนทางเท้า ที่ต้องคอยระแวงซ้ายระแวงขวา หลบไปหลบมา กลัวรถจะคาบไปบริโภค

อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องปกติสำหรับปัญหาคนขี่มอเตอร์ไซค์บนทางเท้า แต่นี่คือดราม่าอันยิ่งใหญ่ของคนไทยทั้งชาติ (เดี๋ยวๆ) มีความพยายามหลายรูปแบบในการแก้ปัญหา รวมถึงไอเดียแก้เผ็ดเหล่าสิงห์ฟุตปาธกันอยู่ไม่น้อย ไปดูกันว่า มีวิธีไหนเจ๋งๆ แปลกๆ กันบ้าง ส่วนทำได้จริงหรือไม่ได้จริงลองใช้วิจารณญาณกันเอาเอง

ก่นด่า/โวยวาย

วิธีแก้ปัญหาแบบบ้านๆ ที่สุดที่ใครก็สามารถทำได้คือ ด่าแม่มเลย ตะโกนให้โลกได้รู้ว่า พวกเธอทำผิดกฏหมาย แต่ใช่ว่าฝ่ายโน้นเขาจะยอมกันง่ายๆ หลายครั้งเลยกลายเป็นการปะทะคารมแทน เราลองค้นหาคำว่า “คลิป มอไซค์ บนทางเท้า” ก็พบหลายคลิปที่น่าสนใจ ที่มี่เหตุการณ์เฉี่ยวชนแล้วเกิดการโวยวาย จนไปถึงขั้นมีปากเสียงกัน ฝ่ายมอเตอร์ไซค์บางคนพอโดนด่าแล้วก็เล่นใหญ่รัชดาลัย นอกจากไม่ขอโทษแล้วยังโวยวายว่า ”คนขี่ตั้งเยอะแยะทำไมมาด่าเราคนเดียว” หรือ “มาเตือนแค่คนเดียวมันไม่มีประโยชน์” ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นฝ่ายทำผิดด้วยซ้ำ และส่วนใหญ่ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์จะทำหน้าโมโหเนียนๆ แล้วขี่หนีไปอย่างไม่แยแส

แต่สุดยอดคดีเด็ดวันนี้ เห็นจะเป็นคลิปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กรณีของชาวต่างชาติคนหนึ่งที่มีปากเสียงกับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ เลยเถิดเป็นการวางมวย ชกต่อยแบบมวยไทยเจ็ดสี โชคดีที่ระหว่างต่อยกันคงได้ปรับความเข้าใจกันไปด้วย สุดท้ายคลิปจึงจบที่การขอโทษและกอดกัน แต่เราไม่มั่นใจว่าพี่คนขับคนนั้นจะยังกลับมาขี่บนทางเท้าอีกหรือเปล่าในวันอื่น

ถ่ายรูปเอาค่าหัว

ใช่ว่าจะสิ้นหวังกับกฏหมายไปซะทีเดียว ล่าสุดมีนโยบายในการปรามการกระทำผิดที่ดูเข้าท่าใช้ได้ซะทีเดียว นั่นคือการตั้งเงินรางวัลคนที่ถ่ายรูป - วิดิโอ นำจับคนขับขี่ และจอดมอเตอร์ไซค์บนทางเท้า ทำเอาหลายคนร้องโอ้โหหหหห.. นี่มันไอเดียทำมาหากินชัดๆ

เรื่องของเรื่องก็คือ พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ที่ระบุว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดจอดหรือขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์หรือล้อเลื่อนบนทางเท้า เว้นแต่เป็นการจอดหรือขับขี่เพื่อเข้าไปในอาคารหรือมีประกาศของเจ้าพนักงานจราจรผ่อนผันให้จอด หรือขับขี่ได้” ทีนี้กติกาง่ายๆ เลยคือ คือ คือ (ทำเสียงแบบรายการเกมโชว์) แค่ถ่ายรูปหรือวิดิโอ ให้เห็นป้ายทะเบียนรถแบบชัดเจน แค่นั้นก็โป๊ะเชะ มีสิทธิลุ้นเงินรางวัลค่าปรับได้เลย

ตอนแรกพอเห็นมูลค่าเงินรางวัล เราอาจจะสนใจยึดการถ่ายรูปรถทำผิดกฏจราจรเป็นอาชีพทำมาหากิน แต่นี่ไม่ใช่เพลงคุ๊กกี้เสี่ยงทาย อาจจะกลายเป็น “ถ่ายภาพเสี่ยงทีน” แทน สมมติว่า ไปถ่ายแล้วเจ้าของรถมาเห็นตอนเราถ่าย จะอันตรายเอาได้ ครั้้นจะให้บอกว่ามาถ่ายภาพสตรีทก็คงจะไม่น่าเชื่อนัก อีกทั้งหลายคนก็บอกว่า ไม่แน่ใจเรื่องความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว เรื่องราวที่ร้องไปจะถูกเก็บเป็นความลับมากขนาดไหน ถ้าคู่กรณีรู้ชื่อที่อยู่ก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เงินที่ได้อาจไม่คุ้มค่ารักษาพยาบาล

ผลัก

คำเตือน อันนี้ผิดกฏหมายนะจ๊ะ

นี่อาจเป็นแรงอาฆาตแบบรุนแรงของคนที่รู้สึกว่าปัญหานี้มันเกินจะเยียวยา ในเมื่อพูดกันดีๆ ไม่รู้เรื่องก็ทำร้ายร่างกายมันซะเลยดีไหม แต่ก็ยังโชคดีที่ยังไม่มีใครทำจริงๆ

สมาชิกผู้ใช้เว็บบอร์ดท่านหนึ่งได้โพสคำถามลงบนเว็บว่า “ถ้าผลักมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งบนทางเท้า+ทางจักรยานล้มมีความผิดอะไรบ้างครับ” โดยได้ให้เหตุผลว่า ตนเบื่อหน่ายกับการหลบมอเตอร์ไซค์และรู้สึกว่า รถเหล่านั้นละเมิดสิทธิของตนแบบหน้าตาเฉย ไม่สะทกสะท้าน

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหลังจากนั้น เหล่าพลเมืองเน็ตผู้มีความอาฆาตก็มากันไม่ขาดสาย หลายคนเข้ามาช่วยกันเล่นแง่ เล่นมุมกันสุดฤทธิ์สุดเดช ถ้าล้มใส่ไม่น่าจะผิดบ้าง บอกป้องกันตัวบ้าง ให้ลองทำถั่วเขียวหล่นบ้าง มีให้ดูกล้องวงจรปิดก่อนทำบ้าง ไปๆ มาๆ ดูแล้วออกแนวเป็นการระบายความคับแค้นซะมากกว่า โชคดีที่ไม่ลุกลามกลายเป็นการวางแผนฆ่าชิงทรัพย์

ทั้งนี้ที่เราเอามานำเสนอไม่ได้ต้องการชี้โพรงให้เสือดำหรือกระรอกอะไรทั้งนั้น แต่เราอยากจะเผยมุมมองหรือความคิดของคนที่เขารู้สึกว่านี่เป็นปัญหาที่พวกเขาเดือดร้อนกันจริงๆ ถึงขั้นมาตั้งกระทู้ พวกเขาคงจะหัวร้อนจริงๆ ถ้าคนที่ยังขี่บนทางเท้าอยู่มาอ่านกระทู้นี้ เราก็วอนขอให้ท่านๆ ลงมาขี่บนถนนเถอะนะ รถล้มเพราะถั่วเขียวมันไม่คูลจริงๆ

อ่านกระทู้เต็ม

“เดินบนถนนนะลูกพี่ ฟุตปาธตรงนี้จะขายของ”

ฟุตปาธน้ำเน่า หรือฟุตปาธที่มีมอเตอร์ไซค์ขี่ อาจจะยังดีที่ “ยังมี” ทางให้เดิน แต่สำหรับข่าวต่อไปอาจเป็นเรื่องน่าเศร้าเสียยิ่งกว่าที่เราไม่มีทางเท้าให้เดินซะด้วยซ้ำ เมื่อทางเท้าอันเป็นทรัพทย์สินสาธารณะถูกยึดไปเรียบร้อย ซึ่งคนที่ยึดไปก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เหล่าพ่อค้า แม่ค้าทั้งหลายนั่นเอง

คุณเคยประสบปัญหาแบบนี้หรือไม่ เดินอยู่ดีๆ ทางที่เดินก็หายไปหรือแคบลงเพราะมีคนเอาของมาตั้งขาย ทั้งลูกชิ้น ผลไม้ ส้มตำ หมูทอด ไก่ทอด เสื้อผ้า ไม้กวาด สารพัดของใช้ในบ้าน ฯลฯ เรียกได้ว่า มีทุกสิ่งให้เลือกซื้อแต่ท่านต้องลงมาเดินบนถนนแทน แถมบางร้านมีของแถมเป็นน้ำล้างจาน เทเรี่ยเทราดให้เราต้องหลบเพิ่ม (เฮ้ออ..) เรียกได้ว่า นี่คือวาระแห่งชาติที่แท้ทรู สำหรับเรื่องขายของบนทางเท้า

หลายคนอาจไม่รู้สึกว่าผิดปกติอะไร เพราะบ้านเราก็ขายของบนทางเท้ากันมานานเป็นชาติแล้ว ปัญหาคือมีหลายคนที่ไม่ได้แฮปปี้จะซื้อของแต่ต้องลงไปเดินบนถนนหรือต้องทำตัวเบียดในซอยแคบๆ จนมีการร้องเรียนถึงปัญหาขายของบนทางเท้ากันพอสมควร กรณีหนึ่งที่เราพบในหน้าเว็บบอร์ดหนึ่งที่พูดถึงร้านอาหารเจ้าดังที่ตั้งขายบนฟุตปาธ และอย่านึกว่ามีแค่ของที่ขาย แต่เล่นขนกันมาทั้งกระทะ เตา ซิงค์ล้างจาน (คอนเฟิร์มว่าเยอะจริง) บวกกับผู้คนที่มายืนต่อแถวซื้อแล้ว กลายเป็นแหล่งผู้ชุมนุมทางการกินกันย่อมๆ

พลังชาวเน็ตเลยรุมสวด บางคนอธิบายว่า ปัญหาไม่ใช่มาจากร้านเพียงอย่างเดียว แต่ก็มาจากเรา ที่ไปอุดหนุนร้านที่ทำผิดกฏหมายแบบนั้น แต่ประเทศนี้ไม่ได้มีแค่ร้านนี้ร้านเดียวที่บุกรุกพื้นที่สาธารณะเพื่อขายของ เจ้าของร้านจึงย้อนถามแบบเจ็บๆ ว่า คิดว่าจะสามารถจัดการทุกร้านในประเทศนี้ได้หรือเปล่า? แต่ที่ฮาสุดเห็นจะเป็นสมาชิกท่านหนึ่งที่โพสแผนที่ระหว่างที่ตั้งร้าน -ศาลาว่าการจังหวัด ทำให้เห็นว่า สองที่นี้ใกล้กันขนาดไหนแต่ก็ยังเดินไปจัดการไม่ได้ จึงทำแผนที่ให้ เผื่อเจ้าหน้าที่จะเดินทางไปจัดการไดถูก (ฮา)

แม้จะมีการจัดระเบียบทางเท้าทุกปี แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหานี้ซะทีเดียว เห็นได้จากที่มีการจัดระเบียบทางเท้า หรือแก้ไขจุดผ่อนปรนต่างๆ ในแต่ละเดือน แล้วพ่อค้าแม่ค้าออกมาถือป้ายเรียกร้องประมาณว่า “อย่ารังแกคนจน” “เพราะเราไม่มีที่ทางทำมาหากินอะไร” อะไรทำนองนั้น แต่เมื่อเดือน ส.ค.ปีก่อนหลังพยายามจัดระเบียบการขายของบนทางเท้า ปัญหาการขายของก็หมดไปเลยจากฟุตปาธ แต่พ่อค้าแม่ค้ากลับลงไปขายบนถนนเลย (อ้าวเฮ้ย!) โดยต้นเรื่องมีคนโพสต์ว่า จุดเกิดเหตุอยู่แถวๆ เขตห้วยขวาง ที่ที่เรา(ผู้เขียน) เดินผ่านอยู่เป็นประจำจากปีก่อนจนถึงปีนี้ เขาก็ยังขายบนถนนกันเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือขยับมาใกล้ป้ายรถเมล์มากขึ้น ทำให้รถขับสัญจรกันยากขึ้น ต้องเบี่ยงไปเบี่ยงมา แถมจราจรติดขัดหนักกว่าเดิม กล่าวได้ว่านี่คือความถ้อยทีถ้อยอาศัยแบบพี่น้องชาวไทยที่ยากจะหาที่ใดเปรียบเหมือน (ประชด)

“ดวงตามืดมิดพี่ไม่กลัว แต่เบรลล์บล็อกวางมั่วพี่ไม่ทน”

เวลาเดินบนฟุตปาธเคยสงสัยกันไหมครับว่า ปุ่มนูนๆ สีเหลืองนี่มันคืออะไร มีไว้ทำอะไร หรือว่าถ้าเดินตามจะไปจบที่ไหน อย่าเพิ่งตกใจกันไปครับ ที่ท่านเห็นเขาเรียก “เบรลล์บล็อก” หรือ “ไกด์ดิงบล็อก” เอาไว้นำทางพี่คนตาบอดเวลาเดินริมถนน ซึ่งมีทั้งปุ่มหยุด ทั้งปุ่มเดินได้ หลายคนคงคิดว่า มีแล้วไม่ดีเหรอ? ปัญหาคือเจ้าเบรลล์บล็อกในประเทศนี้นั้นถูกวางอย่างมั่วๆ ไม่ตรง รูปแบบสากลโลกอะไรทั้งสิ้นและไม่สามารถใช้งานได้จริง บ้างก็พาไปชนป้าย ชนเสา ชนตู้โทรศัพท์ ตกหลุม หรือขาดๆ หายๆไประหว่างทาง

คนซวยเต็มๆ งานนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่คนตาบอดทั้งหลายที่ต้องชีวิตเสี่ยงทายนั่นแหละ ไปเดินบนทางเท้าที่เบรลล์บล็อกนำทางอันแสนมั่วซั่ว หากท่านนึกภาพไม่ออกว่า สถานการณ์น่าเสี่ยงภัยขนาดไหน ลองนึกภาพดูหากต้องปิดตาเดินบนทางที่ผุพัง ฝาท่อแตก เจอร้านค้า เสาไฟฟ้าขวาง ทางไม่เรียบ และมอเตอร์ไซค์วิ่งปาดไปปาดมา ถ้ารอดมาได้คงสะกิดถามว่า ห้อยพระอะไรมา

ถ้าว่าตามข้อมูลจริงๆ แล้วเบรลล์บล็อกสำหรับคนตาบอดจะมีด้วยกันสองแบบ แบบที่เป็นเส้นยาวเรียงต่อกันหมายถึงสามารถเดินไปได้เรื่อยๆ ส่วนปุ่มกลม หมายถึงต้องหยุด เพราะทางข้างหน้าอาจมีถนน มีบันได ทางต่างระดับ และจะต้องติดเตือนก่อนที่จะมีสิ่งกีดขวางเป็นระยะห่าง 30 เซนติเมตร ไม่ใช่ติดเอาตอนเดินชนไปแล้วจย้าา ส่วนที่ต้องใช้สีเหลืองเพราะจะได้เห็นง่ายสำหรับคนตาเลือนราง และคนตาดีจะได้ไม่เอาอะไรไปวางขวางทาง

กรณีของเบรลล์บล็อกที่วางมั่วซั่ว มีให้เห็นกันเรื่อยๆ ในหน้าสื่อออนไลน์ หรือที่ประชาชนทั่วไปถ่ายมาให้ดู เคยมีคนถามคนตาบอดว่าเขาคิดอย่างไรกับเบรลล์บล็อกไทย? เขาตอบว่า ไม่ต้องมีก็ได้ถ้าจะมั่วขนาดนี้ แถมบ้างที่มี บางที่ก็ไม่มี เลยสรุปว่าเสี่ยงเดินเองดีกว่า ไม่ต้องทำให้เปลืองภาษี

เรื่องนี้พีคตรงที่ไม่มีหน่วยงานไหนออกมาแสดงความรับผิดชอบว่า จะปรับ จะเปลี่ยน จะแก้ไขหรือรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุหรือการใช้ชีวิตที่ไม่สะดวกของคนพิการอย่างไร คาดว่า เพราะทางเท้านั้นคาบเกี่ยวกับหลายส่วน ไม่มีใครเป็นเจ้าภาพหลัก (?) ถ้าชนเสาไฟฟ้าก็เป็นของการไฟฟ้า โดนท่อก็ซวยการประปา ทุกคนเลยนิ่งไว้สบายใจสุด และปล่อยให้เป็นหน้าที่สื่อไปก่อน ที่ด่าแถวไหนค่อยแก้แถวนั้น

น่าเสียดายที่เราไม่เห็นข่าวคนตาบอดเดินชนเสาไฟหัวแตก (ไม่มีน่ะดีแล้ว) เลยไม่ได้เอามานำเสนอ แต่ก็น่าดีใจที่ช่วงหลังมีการรายงานเรื่องนี้มากขึ้น เพราะหลายคนรู้สึกว่าได้รับผลกระทบ เพราะถึงแม้ว่าคนตาไม่บอดจะไม่ได้เดือดร้อนกับการมีหรือไม่มีเบรลล์บล็อก แต่เราทุกคนก็ลงความเห็นร่วมกันว่า การจะมีเบรลล์บล็อกที่ดีได้ หมายความว่าจะต้องมีทางเท้าที่ดีพอซะก่อน

ที่มา

กรณีฟุตปาธน้ำเน่าขัง

https://news.mthai.com/general-news/496030.html

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10153782507082968&set=a.84145187967.80053.504322967&type=3&theater

กรณีคนเดินตกท่อและฝาท่อชำรุด

http://www.amarintv.com/news-update/news-3427/92902/

https://www.dailynews.co.th/regional/588165

กรณีขับรถบนทางเท้า

https://www.youtube.com/watch?v=GvBlfKDwCJ8

https://www.youtube.com/watch?time_continue=4&v=vPCk-iOFDwI

https://www.facebook.com/YouLike4/videos/163514150978665/?comment_id=163516300978450&comment_tracking=%7B%22tn%22%3A%22R%22%7D

https://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9600000039219