Skip to main content

ในทุกสถานที่ มีเรื่องเล่า ! 

และแน่นอนว่า หลายคนก็มีเรื่องเล่า โดนเฉพาะประสบการณ์เรื่องวิญญาณ เรื่องลี้ลับ เรื่องที่หาสาเหตุไม่ได้ว่าต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงคืออะไร และไม่ใช่แค่คนไม่พิการ ที่ชอบฟังและอยากจะเข้าใจเรื่องเหล่านี้เท่านั้น แต่คนพิการเองก็มีเรื่องเล่า และอาจเป็นตัวละครในเรื่องเล่าได้เช่นเดียวกัน

Thisable.me รวบรวมเรื่องเล่าจากหลากหลายประสบกรณ์เขย่าขวัญจากหลากหลายแหล่งที่มา ทุกเรื่องล้วนมีความเกี่ยวข้องกับความพิการ เสริมไปด้วยมุมมองต่อคนพิการ ทัศนคติ ความเชื่อทางสังคมที่หล่อหลอมในเรื่องเล่าเหล่านี้อีกด้วย  

และแน่นอนว่าทุกเรื่องเป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน !


วีลแชร์ เรื่องเล่าจากพยาบาล

The Shock 13

เรื่องแรกนี้ เป็นเรื่องเล่าจากพยาบาลที่มีโอกาสไปฝึกงานในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง และเจอเคสผู้ป่วยพิการท่อนล่าง จึงต้องใช้วีลแชร์เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิต พยาบาลคนนี้และเพื่อนพยาบาลก็ทำหน้าที่สลับกันดูแลผู้ป่วยคนดังกล่าวตลอด เวลาล่วงเลยผ่านไป เธอต้องกลับไปเรียนที่วิทยาลัยพยาบาลสังกัดของตนเอง แต่เมื่อกลับมาโรงพยาบาลเดิมอีกครั้ง ก็พบกับข่าวเศร้าว่า คนพิการที่ตนเคยดูแลได้ฆ่าตัวตาย และเสียชีวิตไปแล้ว 

หลังจากวันนั้น เธอก็ได้มีโอกาสดูแลเคสวัยรุ่นประสบอุบัติเหตุที่มาพักฟื้น และต้องคอยกายภาพบำบัด ครั้งหนึ่งเธอพยายามนำวีลแชร์ออกมาจากที่เก็บ แต่ไม่สามารถดึงวีลแชร์ออกมาได้ จึงคิดว่าล้อวีลแชร์คันนี้อาจจะเสีย เลยแจ้งบุรุษพยาบาลให้นำไปซ่อม แต่พอบุรุษพยาบาลมาดูกลับพบว่า ใช้ได้ปกติ ไม่ได้เสียหายอะไร เธอจึงเข็นวีลแชร์คันดังกล่าวไปให้คนไข้เคสอุบัติเหตุที่รออยู่ 

ระหว่างที่เธอเข็นไปหาคนไข้ มีเพื่อนๆ พยาบาลทักทาย เธอจึงหันไปคุย เพียงชั่วครู่เมื่อหันกลับมาก็พบว่า มีชายคนหนึ่งนั่งบนวีลแชร์ที่เข็นอยู่ ด้วยความตกใจจึงร้องเรียกเพื่อน แต่กลับพบความว่างเปล่า ตอนนั้นคิดว่าตัวเองอาจจะเหนื่อยเกินไปจนตาพร่าเสียมากกว่า 

พอเข็นมาถึงห้องคนไข้เคสอุบัติเหตุที่กำลังนอนรออยู่ แต่คนไข้กลับถามว่า ตนสามารถนั่งไปได้แน่ๆ ใช่ไหม และขอเปลี่ยนเป็นใช้ไม้เท้าเดินแทน เธอเองเกิดคำถามขึ้นในใจว่า เพราะอะไรคนไข้จึงไม่ยอมใช้วีลแชร์ 

หลังจากทำกายภาพเสร็จ คนไข้ก็ถามขึ้นมาว่า ได้เอาวีลแชร์คันนั้นออกไปจากห้องหรือยัง เธอซึ่งงอยู่ ก็ถามว่าทำไมเหรอ จึงได้รับคำตอบว่า หลังจากที่เห็นพยาบาลเข็นวีลแชร์เข้ามา เขาก็เห็นคนเดินตามเข้ามาด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาคนนั้นเอานิ้วชี้ไปที่รถเข็น เหมือนกับบอกว่าห้ามนั่งรถคันนี้ และที่สำคัญขาของชายคนนั้นก็ไม่ติดพื้น !

เธอนึกถึงเคสคนพิการที่เสียไปจากการฆ่าตัวตาย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จึงได้ไหว้วานให้บุรุษพยาบาลช่วยไปเข็นวีลแชร์ไปเก็บ และพาคนไข้กลับไปที่ห้อง ระหว่างที่พยาบาลและคนไข้กำลังกลับไปที่ห้อง พวกเขาก็พบบุรุษพยาบาลวิ่งออกมา  พร้อมโวยวายกันยกใหญ่ พร้อมกับเล่าว่า ช่วงระหว่างกำลังเข็นวีลแชร์ออกจากห้อง มีชายคนหนึ่งมายืนขวาง พร้อมกับพูดว่า “รถของกู มึงจะเอาไปให้ใครนั่งอีก” พูดเสร็จ ชายคนนั้นก็เดินมานั่งบนวีลแชร์ และเลือนหายไป บุรุษพยาบาลจึงวิ่งหนีออกมาทันที 

หลังจากนั้นวีลแชร์คันดังกล่าวก็ไม่มีใครนำไปใช้อีก หรือถ้ามีคนใช้ ก็มักจะพบปัญหาตลอด เช่น ล้อหมุนไม่ได้เหมือนมีคนดึง จนในที่สุดวีลแชร์คันนี้ก็ไม่ถูกนำออกมาใช้อีกเลย 

ฟังทั้งหมดได้ใน https://www.youtube.com/watch?v=TTKJk07HU1A


เด็กพิเศษ

The Night Shock

เด็กพิเศษเป็นเรื่องเล่าโดยคุณกร ที่ย้อนไปเมื่อประมาณเดือนตุลาคมปี 2546 ในช่วงปิดเทอมเขาไปบ้านญาติที่ลพบุรี และเช่นเดียวกับทุกครั้งที่ไป เขาจะเจอชายคนหนึ่งชื่อว่าอ๋อง อ๋องแก่กว่ากรประมาณ 3 ปี คนแถวนั้นมักเรียกเขาว่า เอ๋อ เพราะอ๋องเป็นออทิสติก พูดไม่ชัด ติดอ่าง แม้กรเคยเจออ๋องมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่เคยคุยกันมาก่อนเลย 

โดยพื้นฐานแล้วอ๋องเป็นคนเก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร แต่เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น ครั้งหนึ่งกรขับรถมาเจออ๋องยืนอยู่ริมทางเพราะจักรยานของเขายางแบน แม้กรพยายามเสนอความช่วยเหลือ แต่อ๋องก็ไม่รับ เมื่อกรเล่าให้ที่บ้านฟัง ป้าจึงบอกว่า อ๋องเป็นคนขี้เกรงใจ จะไม่รับความช่วยเหลือจากใครถ้าไม่ได้ทำงานแลกเปลี่ยน เขาเป็นดีมากคนหนึ่ง แต่พวกเด็กวัยรุ่นกลับชอบไปแกล้งเขา จนทำให้อ๋องเลือกไม่สุงสิงกับใคร

หลังจากนั้นกรก็พยายามตีสนิทอ๋องมากขึ้น เพราะอยากรู้จักและทำความเข้าใจ จนในที่สุด อ๋องก็เริ่มคุยกับกร สิ่งหนึ่งที่กรได้เรียนรู้จากอ๋องคือคนเป็นออทิสติกก็เรียนรู้ได้ สังเกตจากการที่เขาสอนให้อ๋องหัดเล่นหมากฮอส ผ่านไปไม่นาน อ๋องก็เข้าใจและเล่นได้ แถมยังชนะกรด้วย ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกัน ในทุกเช้า อ๋องจะมาหากรที่หน้าบ้าน และช่วยกรเก็บมะลิในสวน  

เหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้น หลังจากที่กรรู้จักอ๋อง ครั้งหนึ่งพี่ชายของกรที่ทำงานเป็นอาสากู้ภัยในมูลนิธิแห่งนึง มาหากรที่บ้าน อยู่ดีๆ อ๋องก็ชี้ไปที่พี่ชายกรและพูดว่า “เมียเมีย” ตอนนั้นไม่มีใครคิดอะไร แต่หลังจากนั้น 3 ชั่วโมงก็มีคนโทรมาบอกว่า เมียของพี่ชายประสบอุบัติเหตุจากเครื่องจักรในโรงงาน พี่ชายของกร ตัดสินใจเดินทางไปหาภรรยาของตัวเองทันที ทำให้คนทำงานอาสาขาดหายไป กรจึงอาสาตัวเองเข้าไปช่วยแทนพี่ชาย  

วันหนึ่ง ขณะที่กรกำลังจะออกไปทำงานกู้ภัย เขาชวนอ๋องออกไปด้วย โดยให้อ๋องนั่งบนกระบะ ทั้งสามคนได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถขนอ้อยชนกับรถกระบะและมีรถมอเตอร์ไซค์เป็นคู่กรณี ผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุคือคนขับมอเตอร์ไซค์ 

พอถึงที่เกิดเหตุทุกคนก็ช่วยกันทำงาน ผู้เสียชีวิตศีรษะขาดแต่ทุกคนกลับหาศีรษะไม่พบ กรเดินกลับมาที่รถเพื่อจะมาหยิบไฟฉายขนาดใหญ่ เขาลืมไปว่าอ๋องอยู่ในรถจึงชวนอ๋องไปช่วยกันหา จู่ๆ อ๋องก็พูดขึ้นมาว่า “ล้อๆ” ปรากฏว่าเมื่อกรเดินไปตรงล้อรถกระบะ ก็พบศีรษะของผู้เสียชีวิตติดอยู่ตรงนั้นพอดี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทุกคนก็พยายามหาดูแล้วแต่ไม่เจอ ขากลับระหว่างนำศพไปส่งที่โรงพยาบาล อ๋องก็นั่งพูดคนเดียวอยู่ข้างหลังแต่กลับบอกว่าไม่มีอะไรเมื่อกรถาม 

เย็นวันต่อมากรชวนอ๋องไปเตะบอล กรขี่มอเตอร์ไซค์ไปชวน แต่อ๋องไม่ยอมไปเพราะเขาจะใช้จักรยาน กรเลยตัดสินใจปั่นจักรยานแทน เพื่อนกรจึงเอารถมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวไปใช้ แต่ต้องขาหักเพราะรถล้ม โซ่มอเตอร์ไซค์นั้นขาด 

มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นหลายครั้ง เช่น ครั้งหนึ่งกรชวนอ๋องไปกินข้าว พอไปได้ไม่เท่าไหร่อ๋องก็งอแง ไม่อยากไป ทั้งคู่จึงเปลี่ยนใจไม่ไป ปรากฏว่า ร้านอาหารแห่งนั้นมีการยิงกัน คนที่อยู่ในร้านเสียชีวิต หรืออีกครั้งที่จู่ๆ อ๋องบอกว่าปวดฉี่ จนกรต้องจอดรถให้ ปรากฎว่า อพาร์ตเมนต์ตรงนั้นมีผู้หญิงถูกฆาตกรรม กรถามอ๋องว่าทำไมไปยืนตรงนั้น อ๋องบอกว่ามีคนเรียก 

กรได้มีโอกาสถามหลวงตาที่วัดว่า อ๋องเป็นใครมาจากไหน หลวงตาเล่าว่า อ๋องถูกเลี้ยงดูโดยมัคทายกที่วัดนี้ เพราะพ่อแม่เสียหมดแล้ว มัคทายกเป็นพ่อเลี้ยงของอ๋อง เคยมีเหตุการณ์ที่อ๋องถูกเข้าใจผิดว่าข่มขืนเด็ก เขาจึงถูกทำร้ายทั้งที่ความจริงแล้วอ๋องเข้าไปช่วยเด็ก เขาถูกพ่อเลี้ยงเข้าใจผิดจับมัดกับบ้าน หายไปหลายวัน หลวงตาจึงต้องเข้าไปอธิบายและช่วยไว้ 

แม้จะถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายมากขนาดไหน อ๋องก็ยังรักพ่อมาก ทุกวันหลังจากตามหลวงตาไปบิณฑบาต อ๋องจะเอาข้าวไปให้พ่อเลี้ยงของตัวเองกินก่อนและดูแลพ่อจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต

ช่วงสุดท้ายก่อนที่กร กลับไปอยู่กรุงเทพฯ กรพยายามพาอ๋องไปสนามบอลด้วยเสมอ อยากให้เพื่อนๆ และคนแถวนั้นได้รู้จักอ๋องมากขึ้น จะได้ไม่กลั่นแกล้งอ๋อง  ก่อนที่กรจะไปเตะบอล กรเอาทองของตัวเองใส่ให้อ๋องเผื่อฝากไว้ หลังจากที่กรเตะบอลเสร็จก็ไม่เจออ๋อง จนคิดว่าอ๋องกลับบ้านไปแล้ว เลยคิดว่าไม่เป็นไรค่อยไปตามที่บ้าน 

วันต่อมา กรออกไปทำงานอาสากับเพื่อนและระหว่างเดินทางไปที่จุดเกิดเหตุก็เจออ๋อง จึงชวนไปด้วยกัน ระหว่างทางกลับมาได้ไม่นาน อ๋องก็บอกให้กรจอดรถแบบไม่มีสาเหตุ กรไม่จอด อ๋องจึงดึงบุหรี่ออกจากปากกรเลย ทำให้เพื่อนซึ่งเป็นคนขับรถจอดแบบกระทันหัน ต่อมาก็ได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุใหญ่ตรงจุดที่กรและเพื่อนกำลังจะไป และได้อ๋องเข้ามาขัดขวางเสียก่อน

หลังเกิดอุบัติเหตุ ทีมกู้ภัยก็เข้ามาช่วยกันดูแ]ช่วยเหลือต่างๆ กรคิดว่าอ๋องขึ้นรถไปกับเพื่อนที่มูลนิธิด้วยแล้ว เพราะหาอ๋องไม่เจอ วันต่อมา อ๋องก็ไม่มา หลังจากนั้นไม่นาน เพื่อนโทรมาบอกว่า อยากให้มาช่วยเพราะมีคนจมน้ำเสียชีวิต ปรากฏว่าศพนั้นเป็นอ๋อง เสียชีวิตมาตั้งแต่เมื่อวาน ในช่วงที่กรเตะบอล อ๋องเสียชีวิตเพราะกระโดดลงไปช่วยเด็กที่จมน้ำทั้งที่ตัวเองว่ายน้ำไม่เป็น ศพของอ๋องลอยไปไกล กว่า 3 กิโลเมตร ใกล้กับจุดที่กรสแตนบายเวลารับแจ้งเหตุ และเป็นจุดเดียวกับที่เจออ๋องเมื่อวันก่อน การจากไปของอ๋อง ทำให้กรเสียใจเป็นอย่างมาก 

ฟังทั้งหมดได้ใน https://www.youtube.com/watch?v=SBRayvO1EAE&t=456s

วีลแชร์มือสอง

The Shock 13

เป็นประสบการณ์นี้เป็นประสบการณ์ที่เพื่อนของตั้มนำมาเล่าให้ฟัง เกิดขึ้นย่านบางใหญ่เมื่อ 8 ปีที่แล้ว เพื่อนของตั้มชื่อบอย บอยเป็นคนชอบดื่มเหล้ามาก เขามีครอบครัวแล้วแต่ยังไม่มีลูก ช่วงปี 2555 บอยกินเหล้าหนักจนเส้นเลือดในสมองแตก หลังการผ่าตัดครั้งใหญ่บอยไม่สามารถกลับมาเดินได้ ไม่มีแรงที่เดิน ปากเกร็งจนพูดไม่ได้ จึงต้องสื่อสารผ่านสายตา และต้องนอนโรงพยาบาลต่ออีก 5-6 เดือน หลังจากนั้นบอยจึงได้กลับไปอยู่บ้าน

หลังกลับบ้าน บอยจำเป็นต้องใช้วีลแชร์ โชคดีที่เพื่อนของแฟนบอย มีวีลแชร์ที่ไม่ใช้แล้ว และจะเอามาให้ แต่เพราะแม่สามีบอกว่าไม่อยากให้เอามาอยู่ข้างใน กลัวจะเป็นลางไม่ดี ทำให้คนเจ็บคนป่วยจึงพูดกับเจ้าของวีลแชร์เก่าว่า เดี๋ยวยืมมาแล้วจะคืน วันที่บอยกลับมาบ้าน เพื่อนก็เอาวีลแชร์มาให้ แต่แฟนของบอยสังเกตว่า เขามีอาการตกใจ โดยสังเกตจากสายตาของบอย 

หลังจากกลับมาอยู่บ้าน บอยใช้ชีวิตด้วยวีลแชร์ตลอด โดยมีแฟนเป็นผู้ดูแล เธอรู้สึกว่า วีลแชร์เข็นไม่ค่อยไป ทั้งที่ไม่ได้ล็อคล้อ ราวกับว่ามีคนดึงอยู่ข้างหน้า ทั้งที่เป็นแบบนี้อยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ติดใจเพราะคิดว่าวีลแชร์เก่า และทุกครั้งที่พาบอยนั่งวีลแชร์ สีหน้าของบอยจะมีอาการตกใจ เหมือนกับไม่อยากจะนั่ง

เหตุการณ์ต่อมาเกิดขึ้นตอนกลางคืน หลังจากช่วยบอยนอนบนเตียงเรียบร้อยแล้ว ส่วนแฟนของบอยนอนข้างล่าง และวางรถเข็นไว้ข้างๆ เธอสะดุ้งตื่นเพราะเห็นผู้หญิงมานั่งอยู่บนวีลแชร์ เป็นผู้หญิงผมยาว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะไม่อยากให้คนที่บ้านไม่สบายใจ นอกจากนี้ เวลาแม่บ้านที่เข้ามากวาดห้องทำความสะอาดก็จะพบผมเส้นยาวของผู้หญิงตลอด ทั้งที่แฟนของบอยตัดผมสั้น

หนำซ้ำเวลาบอยกับแฟนออกไปข้างนอก คนมักมาทักว่า มีคนนั่งทับบอยอยู่ มีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นตลอดเวลา

เวลาผ่านไป บอยทำกายภาพบำบัดจนเริ่มดีขึ้น เมื่อบอยเริ่มพูดได้ คำแรกที่พูดก็คือ “เอาไปคืน เอารถไปคืน” แม้แฟนบอยจะเริ่มเอะใจฉุกคิดขึ้นมา แต่ก็ยังไม่ทำอะไร

วันหนึ่งแฟนบอยพาบอยไปใส่บาตรหน้าบ้าน พระที่มาบิณฑบาตก็ทักว่า โยมไปเอารถเข็นมาจากไหนและบอกว่าให้เอาไปคืน เขาไม่อยากอยู่ที่นี่ หลังจากนั้นด้วยความสงสัย แฟนบอย จึงโทรกลับไปหาเพื่อนที่เป็นเจ้าของวีลแชร์ เพื่อนเล่าให้ฟังว่า รถคันนี้เป็นของแฟนตัวเองที่เสียไปแล้ว แต่ยังเก็บรถคันนี้ไว้ เมื่อเห็นแฟนเพื่อนเดือดร้อนก็เลยเอาออกมาให้ใช้และเคยจะโทรไปขอคืนเพราะฝันว่าแฟนบอกให้ไปเอาคืน

หลังจากบอยดีขึ้น เขาก็เล่าให้ฟังว่า ทุกครั้งที่นั่งวีลแชร์ จะมีผู้หญิงมายืนชี้หน้า ทำท่าโมโหเหมือนไม่อยากให้นั่ง ซึ่งมีแต่บอยที่เห็นอยู่เพียงคนเดียว หลังจากนั้นวีลแชร์ก็ถูกส่งคืนให้เจ้าของเก็บไว้ดังเดิม

ฟังทั้งหมดได้ใน https://www.youtube.com/watch?v=IYUeIW0LxIA


ตาพิการเผยผีสาวสั่งให้ผูกคอตาย

AMARIN TVHD

เรื่องต่อไปนี้สืบเนื่องจากเรื่องจริงตามข่าว โดยเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวอัมรินทร์ทีวีได้รับแจ้งว่า ตาพิการ อายุ 77 ปี พยายามจะฆ่าตัวตาย โดยคนข้างบ้าน เข้าไปพบตาที่พยายามจะใช้สายไฟเพื่อผูกคอ 

ตาเล่าว่าตัวเองเป็นคนพิการ มีอาชีพถักแหขาย วันเกิดเหตุขณะที่กำลังถักแห จู่ๆ ก็มีผู้หญิงผมยาวใส่ชุดไทยปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับพูดว่า “ตามหาลุงมา 2 ปีแล้ว ไปอยู่ด้วยกันเถอะ” แล้วผู้หญิงผมยาวก็สั่งให้ตาเก็บสายไฟ เขารู้สึกว่าตัวเองอยู่ในภวังค์ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จากนั้นผู้หญิงผมยาวก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ โดยมีตาก็ถัดตัวตามเข้าไป จากนั้นสั่งให้เอาสายไฟไปผูกคอของตัวเอง แต่โชคดีที่เพื่อนบ้านเข้ามาพบเสียก่อนเลยช่วยเอาไว้ได้ทัน

ตาเล่าว่าถึงแม้จะพิการก็มีสติสัมปชัญญะ 100% เขาเห็นผู้หญิงคนนี้จริงๆ และเชื่อว่าเป็นเพราะบ้านของเขาไปสร้างทับที่จอมปลวก ด้านอาจารย์อ๊อด เจ้าสำนักชื่อดังระบุว่า หญิงสาวผมยาวน่าจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของตา และได้ทำพิธีถอนสิ่งชั่วร้ายให้ด้วย

ฟังทั้งหมดได้ใน https://www.youtube.com/watch?v=oCzHZAFYAkQ


ประสบการณ์จากคุณเจมส์ คนตาบอด 

อ้าปากค้าง สตูดิโอ

เจมส์เป็นคนพิการทางสายตา โทรมาเล่าประสบการณ์แปลกในรายการ ความผิดปกติแรกที่เขาเจอ เกิดขึ้นหลังจากไปงานบวงทรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ มีสิ่งแปลกๆ เกิดขึ้นภายในห้องของตนเอง เช่น ของร่วง ทั้งๆ ที่เก็บใส่ลิ้นชักไปแล้ว แต่ตนเองก็ไม่ได้สนใจอะไร 

ต่อมาในช่วงที่เจมส์ยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดแห่งหนึ่ง ช่วงนั้นฮิตเรื่องผีอย่างมาก โดยเฉพาะการบุกพิสูจน์สถานที่เร้นลับ ด้วยความที่ตนและเพื่อนอยากทำบ้าง จึงนัดเพื่อนอีกคนที่สายตาเลือนลาง ทำรายการพิสูจน์ผี โดยเลือกสถานที่ภายในโรงเรียนฝั่งบ้านพักครูและที่เก็บของ เพราะค่อนข้างเงียบและไม่มีคน วันนั้นเวลาเช้ามืด เจมส์และเพื่อนถือเครื่องบันทึกเสียง เดินเข้าไปในสถานที่แห่งนั้น แต่ระหว่างเดินอยู่ก็มีขามาขัดเจมส์ทำให้ล้มลง เจมส์ถามเพื่อนอีกคนว่าเป็นคนทำให้ล้มลงหรือไม่ เพื่อนปฏิเสธ โดยบอกว่าไม่ได้อยู่ใกล้ ไม่มีทางที่จะเดินขัดขากัน และเขาก็มองไม่เห็นใคร ตอนนั้นคิดว่าตัวเองเจอแล้ว เพราะรู้มาว่าสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องเล่า ทั้งเด็กจมน้ำตาย และสุสานเก่า

อีกเหตุการณ์หนึ่งที่เจอคือ ฝันเห็นปอบ ในฝันเขาพยายามหยุดยั้งปอบที่กำลังจะเข้าสิงญาติ แต่พอห้ามเสร็จ ปอบตนนั้นกลับเปลี่ยนเป้าหมายมาเข้าตัวเขา หลังจากตื่นขึ้นมาก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะรู้สึกว่าเป็นแค่ความฝัน แต่กลับพบรอยจุดเดียวกับที่ปอบพยายามจะเข้าสิง เจมส์ฝันเรื่องนี้ซ้ำๆ หลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้กังวลอะไร ฝันของเขาเป็นเสียง ไม่มีภาพ เพราะตาบอดตั้งแต่เกิด ส่วนคนที่ตาบอดทีหลังอาจจะฝันเห็นภาพได้เพราะเคยมองเห็นมาก่อน

เหตุการณ์ที่เจมส์พบในรูปแบบของการสัมผัสคือ ระหว่างทางกลับบ้าน ฝนตกและเขาโดนฝน จึงอาบน้ำนอนทันที แต่ระหว่างที่กำลังจะหลับก็มีมือมาจับที่หัวเข่า ตอนแรกคิดว่า เป็นคนในบ้าน จึงเอื้อมมือไปจับที่เข่าแต่ก็ไม่พบใคร คิดว่าแม่มาจับแล้วก็เดินไป แต่พอนอนไปได้สักพักจึงนึกได้ว่าล็อคห้องนอนแล้ว นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายครั้งที่พบสิ่งผิดปกติภายในบ้าน เช่น รู้สึกว่ามีคนมานอนข้างๆ เพราะที่นอนที่ยุบลงไป หรือเสียงแปลกๆ ที่หาสาเหตุไม่ได้อีกด้วย

ฟังทั้งหมดได้ใน https://www.youtube.com/watch?v=n319-2l1AW0&utm_source=Facebook_PicSee&fbclid=IwAR3Gwgu1q1zMjaIfDKXq9E-PivkxndzKIOV50NiytMmi1lYPw5TH358gSKA