Skip to main content

เมื่อวันที่ 15 ก.พ.63 EDeaf หรือ Education for the Deaf ร่วมกับโรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆ จัดแสดงงาน “โสตทุ่ง Showcase” ที่ห้างสรรพสินค้า Siam Square One กรุงเทพฯ โดยแสดงผลงานของเด็กหูหนวก จากการทำงานร่วมกันตลอด 10 สัปดาห์ เช่น สติกเกอร์ไลน์ ภาพถ่าย หนังสั้น และการแสดง

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการสนทนาแบ่งปันประสบการณ์การใช้ชีวิตร่วมกับคนหูหนวกในหัวข้อ ‘The Silent Love’ โดยมี สุชีพ เจริญสาริกิจ สามีผู้ใช้ชีวิตร่วมกับภรรยาหูหนวก, พีรพงษ์ บุญคุณานันท์ พูดถึงบทบาทของครอบครัวและการศึกษาสำหรับนักศึกษาคนหูหนวกในประเทศไทยและชัชชาติ สิทธิพันธุ์ พูดถึงบทบาทความเป็นพ่อในการดูแลลูกชาย ร่วมเป็นวิทยากร

สุชีพ เจริญสาริกิจ สามีผู้ใช้ชีวิตกับภรรยาหูหนวกกล่าวว่า ช่วงแรกผมก็งงนิดหน่อยเพราะไม่เคยสัมผัสกับคนหูหนวกมาก่อน เราพิมพ์คุยกัน พยายามทำความเข้าใจเขา เขาก็พยายามทำความเข้าใจเรา ทุกสิ่งขึ้นอยู่ที่ว่าตัวเรายอมรับในสิ่งที่เขาเป็นได้ไหมต่างคนต้องต่างพร้อมที่จะพัฒนาความรัก สำหรับเราหูหนวกไม่เป็นอุปสรรคที่จะเป็นแฟนกัน เพราะฉะนั้นเรื่องอื่นไม่สำคัญเลย ทั้งภาษามือ ภาษาเขียนหรือภาษาพูดล้วนเป็นภาษาใจที่คนหูหนวกสามารถรับรู้ได้เหมือนกันเพียงแค่ต้องพัฒนาให้มาก

พีรพงษ์ บุญคุณานันท์ กล่าวว่า การเรียนร่วมเริ่มยากขึ้นในแต่ละระดับ หากเด็กปกติเรียนรู้ได้ 80% ลูกเราที่หูหนวกจะรับได้แค่ 30% ฉะนั้นเราต้องเพิ่มแรงผลักดันเขามากขึ้น ส่วนใหญ่เราสู้กับการเรียน หลังจากจบ มัธยมต้น ขึ้นมัธยมปลาย ตอนนั้นเรารู้เลยว่าลูกเรียนร่วมกับเด็กปกติไม่ได้ การสื่อสาร การเข้าใจในแต่ละวิชาเริ่มยากขึ้น จึงตัดสินใจเปลี่ยนไปเรียนโรงเรียนเฉพาะทางของเด็กหูหนวกด พอไปโรงเรียนเฉพาะ เขาเริ่มรู้สึกว่าเขามีเพื่อนที่เป็นเพื่อนจริง ๆ เด็กหูหนวกที่นั่นยิ้มแย้มแจ่มใส มีสังคมของเขา มีกิจกรรมของเขาและใช้ชีวิตอย่างปกติ

ด้าน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวว่า ชีวิตคนเราไม่แน่นอน ไม่มีปาฏิหาริย์ เด็กที่ใส่ประสาทหูเทียมจะไม่ได้ยินเสียงพูดเพราะเครื่องไม่ได้ขยายเสียงแต่แทนเสียงด้วยสัญญาณไฟฟ้า ฉะนั้นจึงมีคนที่ผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมแล้วไม่สำเร็จเยอะมาก หัวใจของเรื่องนี้อยู่ที่การฝึก การผ่าตัดใช้เวลา 6 ชั่วโมง แต่การฝึกอาจกินเวลายาวนานกว่า 2 ปี ความเอาใจใส่ของพ่อแม่จึงเป็นเรื่องสำคัญ อย่าหวังว่าครูจะช่วยแก้ปัญหาให้เราได้ เพราะครูอยู่กับลูกเราไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน พ่อแม่จึงควรต้องมีวิธี ต้องเข้าใจ และต้องกลายเป็นวัฒนธรรมของครอบครัวเลย ไม่ว่าจะเป็นภาษามือ หรือการอ่านปากและอย่าท้อถอยเพราะชีวิตลูกขึ้นอยู่กับเรา