Skip to main content
ดูเหมือนว่าในปัจจุบัน ‘โรคซึมเศร้า’ จะเป็นเรื่องที่สังคมยอมรับว่า ความเจ็บป่วยทางจิตใจนั้นสมควรให้คุณค่าไม่ต่างจากความเจ็บป่วยทางกาย ไม่ว่าจะเป็นอาการป่วยเล็กๆ น้อยๆ ไปถึงอาการป่วยรุนแรงที่พร้อมคร่าชีวิตคนได้ทุกเมื่อ อย่างไรก็ดีก็ยังมีพื้นที่ที่ความเข้าใจเรื่องซึมเศร้านั้นยังอาจไปไม่ถึง
แม้ในทางการแพทย์ ภาวะซึมเศร้าเพิ่งมีเกณฑ์การวินิจฉัยอย่างเป็นมาตรฐานเมื่อประมาณ 69 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีซึมเศร้ากลับเป็นเรื่องที่พูดกันมาเป็นพันๆ ปีแล้ว หากแต่ บริบททางสังคมและความก้าวหน้าทางการแพทย์ส่งผลให้คำว่า ‘โรคซึมเศร้า’ และ ‘ซึมเศร้า’ มีความแตกต่างกันในแต่ละยุคสมัย 
ผู้ป่วยหรือผู้มีความบกพร่องทางจิตส่วนใหญ่ที่ไม่ยอมไปพบจิตแพทย์และเข้ารับการรักษา เกิดจากการวิตกกังวล หวาดกลัว อับอาย และที่สำคัญไม่ต้องการถูกตีตราบาปจากสังคมว่า เป็นโรคจิต คนบ้า ฯลฯ โดยเชื่อว่าการมีสถานภาพเป็นผู้ป่วยจิตเวชแม้จะรักษาอาการจนหายดีแล้วก็ตาม จะทำให้ตนเป็นที่รังเกียจจนถูกกีดกันออกจากสังคม ไม่ถูกยอมรับ เสียโอกาสในด้านต่างๆ เช่น หน้าที่การงาน หรือแม้แต่การถูกเลือกปฏิบัติแตกต่างออกไปจากคนอื่น ท้ายที่สุดจึงเลือกปกปิดอาการและเก็บไว้เป็นความลับแทน รอคอยว่าสักวันหนึ่งคงหายได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาการรักษาแล้วอะไรล่ะ? เป็นตัวการทำให้พวกเขาเข้าใจผิดเช่นนั้น เพราะอะไรจึงเชื่อว่า เรื่องที่เคยได้ยินเป็นเรื่องจริง ในวันนี้อดีตผู้ป่วยจิตเวชจะมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและบอกพวกคุณว่า ทั้งหมดที่เคยเชื่อมาเป็นแค่เรื่องโกหก! พร้อมเปิดเผยเรื่องราวที่จะเปลี่ยนทุกความเชื่อและฆ่าทุกความกลัวของคุณไปตลอดกาล สิ่งที่คิดกับความเป็นจริงจะต่างจากสิ่งที่รับรู้มาขนาดไหน ลองมาฟังประสบการณ์จริงจากปากพวกเขากัน