Skip to main content
ผู้ป่วยหรือผู้มีความบกพร่องทางจิตส่วนใหญ่ที่ไม่ยอมไปพบจิตแพทย์และเข้ารับการรักษา เกิดจากการวิตกกังวล หวาดกลัว อับอาย และที่สำคัญไม่ต้องการถูกตีตราบาปจากสังคมว่า เป็นโรคจิต คนบ้า ฯลฯ โดยเชื่อว่าการมีสถานภาพเป็นผู้ป่วยจิตเวชแม้จะรักษาอาการจนหายดีแล้วก็ตาม จะทำให้ตนเป็นที่รังเกียจจนถูกกีดกันออกจากสังคม ไม่ถูกยอมรับ เสียโอกาสในด้านต่างๆ เช่น หน้าที่การงาน หรือแม้แต่การถูกเลือกปฏิบัติแตกต่างออกไปจากคนอื่น ท้ายที่สุดจึงเลือกปกปิดอาการและเก็บไว้เป็นความลับแทน รอคอยว่าสักวันหนึ่งคงหายได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาการรักษาแล้วอะไรล่ะ? เป็นตัวการทำให้พวกเขาเข้าใจผิดเช่นนั้น เพราะอะไรจึงเชื่อว่า เรื่องที่เคยได้ยินเป็นเรื่องจริง ในวันนี้อดีตผู้ป่วยจิตเวชจะมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและบอกพวกคุณว่า ทั้งหมดที่เคยเชื่อมาเป็นแค่เรื่องโกหก! พร้อมเปิดเผยเรื่องราวที่จะเปลี่ยนทุกความเชื่อและฆ่าทุกความกลัวของคุณไปตลอดกาล สิ่งที่คิดกับความเป็นจริงจะต่างจากสิ่งที่รับรู้มาขนาดไหน ลองมาฟังประสบการณ์จริงจากปากพวกเขากัน
ในชีวิตประจำวัน น้อยนักที่จะเห็นคนพิการออกมาจับจ่ายใช้สอยหรือออกมาเดินช็อปปิ้งบ่อยจนกลายเป็นภาพชินตาอย่างเช่นคนไม่พิการทำกัน ความยากลำบากเพราะความพิการที่เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต ทำให้คนพิการหลายคนไม่สามารถใช้อำนาจของเงินในมือ แล้วจะมีทางใดบ้างหรือไม่ ที่ทำให้คนพิการกลายมาเป็น ‘ลูกค้าพิการ’ ที่มี
กระแสไอโฟนเจ็ดไหลเชี่ยวกรากอยู่บนสื่อสิ่งพิมพ์และโซเชียลมีเดีย สีใหม่ กันน้ำ หูฟังไร้สาย ทำให้หลายคนพูดถึงมันทั้งในชีวิตจริงและโลกออนไลน์--ฉันเองก็ไม่ต่าง        
ผู้ป่วยจิตเภทก่อคดีและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมากแค่ไหน? รายงานชิ้นนี้พยายามยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นถึงตัวอย่างกระบวนการยุติธรรมในต่างประเทศกับกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย แต่ท้ายที่สุดแล้วก็อาจต้องกลับมาหาคำตอบคำถามว่าแท้จริงแล้วผู้ป่วยจิตเภทนั้นก็อาชญากรรมมากน้อยเพียงใด?
เมื่อไม่นานมานี้ ภาพยนตร์สารคดี "เชอรี่" โดยโสภณ ฉิมจินดา เรื่องราวของเธอซึ่งนั่งวีลแชร์ขายพวงกุญแจตามย่านสถานบันเทิงที่พัทยา สร้างความรู้สึกว้าวให้เราไม่น้อย เพราะอะไรน่ะหรือ? เพราะเนื้อหาที่สื่อสารไม่ทำให้เห็นความลำบากตรากตรำของเชอรี่ แต่กลับมุ่งให้เห็นความเป็นมนุษย์ ความต้องการ และแรงปรารถนาโดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์และความรักที่ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยคำว่า "ความพิการ"
เราต่างตามหาความสมบูรณ์แบบ ทั้งในความสมบูรณ์แบบของตัวเอง และความสมบูรณ์แบบของผู้อื่น
ดินแดนเสรี ที่มีพื้นที่ให้กับความแตกต่าง แล้วเอาเรื่องราวมาแบ่งปัน... Where Chill View Share ...เมื่อสองนักข่าว พกพา "ขา" และ "ล้อ" หยิบมุมมองใส่เป้ แล้วออกเดินทาง
‘วัตถุจะเคลื่อนที่ได้ต่อเมื่อมีแรงมากระทำ หากปราศจากแรงวัตถุจะหยุดนิ่ง’ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันข้อที่ 1 บอกไว้อย่างนั้น ซึ่งสรุปโดยสังเขปได้ว่า มนุษย์จำเป็นต้องใช้แรงทำสิ่งต่างๆที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต แม้แต่ กิจวัตรประจำวันง่าย ๆ ก็ยังต้องใช้แรงเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการหยิบจับสิ่งของ ลุกจากเตียง เปิดประตู ฯลฯ แต่กฎข้อนี้ใช้ไม่ได้กับ นลัทพร ไกรฤกษ์ ผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และคุ้มค่า ไม่ต่างจากคนไม่พิการ ชีวิตของเธอมีมากกว่าการคิดถึงเรื่องสุขภาพหรือระยะเวลาในการมีชีวิตอยู่ เธอได้เป็นในสิ่งที่อยากเป็น และทำในสิ่งที่อยากทำ แม้ปราศจากแรงซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการใช้ชีวิต จนในที่สุดก็ค้นพบบางสิ่งที่ทำให้เธอและผู้ป่วยคนอื่นๆ สามารถไปได้ไกลกว่าที่พวกเขาคาดคิดไว้ และพิสูจน์ให้สังคมเห็นว่า คนพิการก็สามารถทำประโยชน์ให้แก่สังคมได้เช่นกัน
'พงศกร แปยอ' คว้าเหรียญเงินกรีฑาคนพิการชิงแชมป์โลก เฉือนเหรียญทองเพียงเสี้ยววินาที โดยใช้เวลา 25.29 วินาที เท่ากันกับ 'เบรนท์ ลากาตอส' คู่แข่งจากแคนาดา ทำให้ต้องตัดสินกันด้วยภาพถ่าย และเป็น เบรนท์ ลากาตอส นักวีลแชร์ชาวแคนาดา ที่ล้อแตะเส้นชัยก่อนเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น คว้าเหรียญทองในประเภทนี้ไป
เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา เวทีพูดให้กำลังใจเกิดขึ้นเยอะมากในทัศนะของกฤษณ์ สงวนปิยะพันธ์ แต่จะทำอย่างไร ให้คนที่ได้รับแรงบันดาลใจเหล่านั้น ลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง? เขาเชื่อว่า กระบวนการละคร จะช่วยให้คนพิการลุกขึ้นมาลงมือทำ และเรียกความมั่นใจในตัวเองออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ